31/01/2025

แม่ฮ่องสอน-เชิญชวนเที่ยวชม ท่าเรือท่าโป่งแดง ท่าเรือประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน

IMG_8329

แม่ฮ่องสอน-เชิญชวนเที่ยวชม ท่าเรือท่าโป่งแดง ท่าเรือประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน
นายบุญยิ่ง คีรีสัตยานนท์ อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าโป่งแดง หมู่ที่ 5 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำเราไปเยี่ยมชมศาลาเก่าแก่มีอดีตอันยาวนาน อยู่คู่กับเมืองแม่ฮ่องสอนมาแต่โบราณกาล สร้างด้วยไม้แดงทั้งหลัง มีหลังคาสองชั้น ชั้นบนมุงด้วยสังกะสี ชั้นในมุงด้วยไม้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปาย ศาลาหลังนี้ มีอายุกว่า 160 ปีแล้ว เดิมใช้เป็นท่าเรือที่พ่อค้าชาวพม่านำสินค้ามาพัก เปรียบได้กับด่านศุลกากรในปัจจุบัน ต่อมาเปลี่ยนเป็นวัด โดยมีพระมาจำพรรษา และได้ใช้เป็นอาคารเรียนหลังแรก ของหมู่บ้าน ปัจจุบันได้รับการบูรณะจากงบยุทธศาสตร์จังหวัด ฯ และงบสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง ให้มีความคงทนแข็งแรง และได้เสริมแต่งศาลาด้วยศิลปะพื้นบ้านไทใหญ่ คือ ฉลุปานซอย อย่างสวยงาม
ศาลาท่าเรือประวัติศาสตร์บ้านท่าโป่งแดง สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.2372 มีบริษัทบริติชบอมเบร์ เบอร์มา ประเทศอังกฤษสัมปทานไม้สักได้ในสมัยนั้น ได้จ้างชาวไทใหญ่สร้างท่าเรือนี้ขึ้นมา ณ สมัยนั้นตรงกับที่เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนองค์แรก ชื่อเจ้าฟ้าพญาสิงหนาทราชาขึ้นครองเมืองแม่ฮ่องสอน ศาลาท่าเรือแห่งนี้ใช้เป็นที่ทำการค้าไม้สักฝรั่งที่ประเทศอังกฤษ สัมปทานได้ทำการค้าไม้สักระหว่างประเทศไทยและพม่า ใช้ช้างลากไม้สักตามแม่น้ำปาย ศาลาท่าเรือแห่งนี้ยังใช้เป็นที่พักสินค้าขายระหว่างประเทศไทยและพม่า โดยใช้เรือถ่อสินค้าล่องตามลำน้ำปายถึงแม่น้ำสาละวิน ( หรือน้ำคง ) ซึ่งเป็นเส้นทางขนสินค้าสะดวกที่สุดในสมัยนั้น ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2451 เจ้าดารารัศมี พระชายาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ออกตรวจตราเมืองชายแดน ระหว่างไทย-พม่า ได้เดินทางล่องน้ำปายมายังเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เสด็จลงท่าเรือบ้านท่าโป่งแดง ล่องน้ำปายไปถึงแม่น้ำสาละวิน ถึงบ้านใหม่ไปผาปูน ไปเยี่ยมพระประยูรญาติ ซึ่งเป็นกะเหรี่ยงแดง รัฐคะยา ประเทศพม่า ต่อมาเมื่อ พ.ศ 2479-พ.ศ.2480 ชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ได้กราบอาราธนา อัญเชิญพระพุทธรูปพระมหามุนี ( พลาละแข่ง ) จากเมืองมัณฑเลย์ นำขึ้นเรือถ่อมาขึ้นที่ศาลาหลังนี้ แล้วบรรทุกใส่เกวียนลำเลียงเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดหัวเวียง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ศาลาท่าเรือหลังนี้ บ้านท่าโป่งแดงใช้เป็นที่ขึ้นวัด ฟังธรรม ใช้เป็นที่เรียนหนังสือ และเป็นที่ทำการประชุมชาวบ้านท่าโป่งแดง และยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม อื่น ๆ ของชุมชน สถานที่แห่งนี้จึงนับว่าทรงคุณค่า ทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ชาวบ้านท่าโป่งแดง จึงได้ร่วมใจกันอนุรักษ์ไว้ เพื่อรักษาศาลาท่าเรือโบราณหลังนี้ ให้คงอยู่สืบไปชั่วลูกหลาน
นายบุญยิ่ง คีรีสัตยานนท์ อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าโป่งแดงได้กล่าวว่า ในอดีตท่าเรือแห่งนี้ เคยมีบริการนั่งเรือนำเที่ยวตามลำแม่น้ำปาย แต่ปัจจุบัน ท่าเรือท่าโป่งแดง ไม่มีเรือนำเที่ยวให้บริการแล้ว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จึงทำให้ชาวบ้านเลิกกิจการนำเที่ยวโดยทางเรือไปโดยปริยาย หากมีนักท่องเที่ยวที่สนใจนั่งเรือ ก็จะแนะนำให้ไปใช้บริการที่ท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือท่าโป่งแดงนัก ปัจจุบันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน ท่าเรือแห่งนี้ จะมีซุ้มน้ำนั่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจในช่วงฤดูร้อนของทุกปี
จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ประชาชนผู้ที่สนใจ สามารถแวะมาเที่ยวชมศาลาท่าเรือประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ ซึ่งเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.- 17.00 น.
สุกัลยา /แม่ฮ่องสอน

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป