ปิดภารกิจดับไฟ หุบเขากระทิง 3 วันเพลิงสงบ เตรียมสอบสวนหานายทุนลักลอบลากท่อน้ำขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งกลายเป็นเชื้อไฟลุกลามไปทั่ว

จากกรณี เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 17 ม.ค.68 เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าบริเวณแนวเขากระทิง ม.6 ในพื้นที่เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว อ.สัตหีบจ.ชลบุรี โดยไฟได้ลุกลามเป็นวงกว้างและยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงใยเบื้องต้น จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงเข้าสกัดต้นเพลิงเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ

โดยกองทัพเรือ ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นดับไฟ จำนวน 8 เที่ยว ในรุ่งเช้าของวันที่ 18 ม.ค. และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังทราบข่าวได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ เข้าปฏิบัติการตักน้ำโปรยดับไฟทั้ง 2 วัน รวม 31 เที่ยว จนเพลิงสงบลงและมีกำลังทางภาคพื้นดินจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ส่งมาช่วยเหลือและอีกหลายหลายหน่วยงานที่ร่วมเดินเท้าเข้าดับไฟ ในครั้งนี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.20 น. ของวันนี้ 19 ม.ค.68 นายอนุศักดิ์ พิริยอมร นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนางธัญญพัทร์ อัครพุทธาทิพย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกล็ดแก้ว และเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ ทีม ฮ.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชลบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ และอีกหลายหน่วยงานในพื้นที่ ได้ร่วมกันประชุมและประกาศจบภารกิจการดับไฟป่าเขากระทิง ซึ่งใช้ระยะเวลาในการดับไฟ รวม 3 วัน หลังจากมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ดับไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพจนเพลิงสงบลง ในวันนี้จึงประกาศปิดศูนย์บัญชาการฯ อย่างเป็นทางการ

ส่วนกรณีที่มีคนลักลอบนำท่อยางส่งน้ำขึ้นไปบนยอดเขากระทิง ซึ่งกลายเป็นเชื้อไฟลุกลามไปทั่วบริเวณเขานั้น ทางกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ที่เป็นหน่วยงานดูแลพื้นที่ จะได้มีการประชุมและลงพื้นที่สำรวจร่วมกับทางอำเภอสัตหีบ จนท.ป่าไม้ ชลบุรี เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันในการดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเขา และทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในคร้้งนี้ ตามขั้นตอนกฎหมายอย่างจริงจัง
สำหรับ เขากระทิง เป็นเขาที่ตั้งอยู่ภายในเขต เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ติดกับถนนสาย 332 แยกเจ-เกษมพล โดยมีหมู่บ้านประชาชนล้อมรอบ เป็นที่ดินทรงสงวนในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ

ซึ่งล่าสุด มีกลุ่มนายทุนบุกรุกเขาและถูกจับดำเนินคดี ในความผิดฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วย ประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าและบุกรุกที่ทรงสงวน และยังมีข่าวในการหลอกขายที่ดิน ทั้งที่ไม่มีโฉนดกันอีกด้วย ทำให้มีผู้เสียหายเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท ซึ่งเป็นคดีกันอยู่ในชั้นการสอบสวน (อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนตามขบวนการยุติธรรม)
จนล่า สุดมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าปะทุลุกลามไปทั่วเขา โดยฝีมือของมนุษย์ นั่นเอง