อยุธยา – จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
อยุธยา – จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘
วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. ณ.อาคารศูนย์พัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริฯ องค์การบริหารส่วนตำบลพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยานายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการ “แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๘ โดยมีนางรัฐยา อาจหาญ เผยพร นายอำเภอลาดบัวหลวง กล่าวรายงานถึงกิจกรรมในครั้งนี้ มีนางสาวปริยา อังสุวร กรรมการอำนวยการและเหรัญญิกมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย นายอุเทน ชนะกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ ผู้อำนวยการบริหาร แว่นท็อปเจริญ กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอลาดบัวหลวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม
นางรัฐยา อาจหาญ เผยพร นายอำเภอลาดบัวหลวง กล่าว กิจกรรมการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นให้กับผู้สูงวัยด้อยโอกาสที่มีอายุตั้งแต่ ๔๕ ปี ขึ้นไป ทำให้ผู้สูงวัยด้อยโอกาสได้มีโอกาสมองเห็นได้ชัดเจนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถดูแลบุตรหลานและประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ สภาพทั่วไปของอำเภอลาดบัวหลวง มีพื้นที่ ๑๙๙.๙๒๘ ตารางกิโลเมตร ประชากรจำนวน ๒๙,๖๖๒ คน ครัวเรือนจำนวน ๑๔,๗๕๗ ครัวเรือน แบ่งการปกครองท้องที่เป็น ๗ ตำบล ๕๘ หมู่บ้าน การปกครองท้องท้องถิ่น ๒ เทศบาลตำบลและ ๖ องค์การบริหารส่วนตำบล ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ ๙๐ รายได้ครัวเรือนเฉลี่ย ๑๘๔,๓๔๕.-บาท/ปี
นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ ผู้อำนวยการบริหาร แว่นท็อปเจริญ กล่าวเพิ่มเติม หลังจากที่พระองท่านได้ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้แว่นท็อปเจริญได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จงถึงปัจจุบัน และยังได้รับพระราชทานพระราชานุญาต ในการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๗๒ รวมระยะเวลาดำเนินโครงการยาวนานถึง ๒๐ ปี และในครั้งนี้นับเป็นการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงวันครั้งที่ ๑๖๖ โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการฯ ได้ช่วยเหลือผู้สูงวัยไปแล้วทั้งสิ้น ๖๖,๐๙๗ เป็นชาย ๒๘,๐๕๙ และหญิง ๓๘,๐๓๘ ราย
นายอุเทน ชนะกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าว สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มอบหมายให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานภาคีเครือข่ายร่วมพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ ๔๕ ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาด้านสายตาจำนวน ๔๐๐ คน มารับบริการตรวจวัดสายตาประกอบแว่น พร้อมอำนวยความสะดวกในการจัดพื้นที่ให้บริการการดำเนินการคัดเลือกและจัดเตรียมพื้นที่ในการดำเนินโครงการฯ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ว่าการอำเภอลาดบัวหลวง หน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายสิทธิชัย สิทธิสมาน รองนายกกิ่งกาชาดอำเภอลาดบัวหลวง กล่าว มูลนิธิฯได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ ซึ่งเป็นให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการด้านสายตา และประกอบแว่น แก่เด็กยากไร้และอยู่ในถิ่นทุรกันดารโดยจัดทำโครงการแว่นพาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพฯ และขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มูลนิธิฯดำเนินการกับห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตา และประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ ๔๕ ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้ด้อยโอกาสที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชานุญาตให้ดำเนินการได้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ และเพื่อให้ตามโครงการสำเร็จลุล่วงด้วยดี มูลนิธิฯ จึงได้ขอความร่วมมือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้หน่วยงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่มีอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประช่วยคัดกรองผู้สูงวัยที่มีอายุ ๔๕ ปีขึ้นไป และมีปัญหาทางด้านสายตาเข้ารับบริการ
นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวปิดท้ายว่า โครงการฯ ของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทยที่ได้ร่วมกันจัดโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสนเด็จพระเทพรัตนฯ ครั้งนี้ นับว่าเป็นความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ที่ดีก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สูงวัยที่ยากจน และอยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ลดการพึ่งพาบุคคลในครอบครัว มีความสะดวกในการดำเป็นชีวิต ส่งมลให้ผู้สูงวัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยครอบครัวประกอบอาชีพดูแลบุตรหลานที่อยู่ในความอุปการะ ตลอดจนบุคคลที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับกับผู้สูงวังวัยทำให้ผู้สูงวัยเกิดความภาคภูมิใจ และมีความสุข
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๑ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชกระแสรับสั่งต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เกี่ยวกับการตัดแว่นตาให้กับผู้สูงวัย ว่ายังไม่มีหน่วยงานใดช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างจริงจังทั้งนี้ทรงเล็งเห็นว่า หากผู้สูงวัยต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้าหรือต้องเลี้ยงหลานแต่ตามองเห็นได้ไม่ชัดเจน จะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว มูลนิธิฯ จึงได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ ซึ่งเป็น ผู้ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการด้านสายตา และประกอบแว่น แก่เด็กยากไร้และอยู่ในถิ่นทุรกันดารโดยจัดทำโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ และขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มูลนิธิฯ ร่วมดำเนินการกับ ห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตา และประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ ๔๕ ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้ด้อยโอกาส และอยู่ในถิ่นทุรกันดารมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชานุญาต ให้ดำเนินการได้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒- ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗
สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา