รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว “การส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว “การส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งส่งเสริมความเชี่ยวชาญพิเศษให้หมอนวดไทยใน 7 กลุ่มอาการ อาทิ ออฟฟิสซินโดรม หัวไหล่ติด นี้วล็อก อัมพฤกษ์ อัมพาต หวังช่วยผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจสุขภาพ พร้อมทำควบคู่ไปกับแผนการเพิ่มบุคลากรด้านนวดแผนไทยที่ยังขาดแคลนกว่า 8 หมื่นคน”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว “การส่งเสริมและยกระดับการนวดไทย” โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมภูมิปัญญาการนวดไทย ด้วยการส่งเสริมและยกระดับอาชีพและวิชาชีพการนวดไทยให้มีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ และสนับสนุนให้นำมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษาร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน โดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและ สภาการแพทย์แผนไทย ได้เร่งเดินหน้าเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษให้กับหมอนวดไทย ใน 7 กลุ่มอาการ ได้แก่ กลุ่ม ปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Office syndrome) โรคหัวไหล่ติด โรคนิ้วล็อก ภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (ปวดสลักเพชร) หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต และกลุ่มระบบสืบพันธุ์ / ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังเหล่านี้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพนวดไทยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็จะได้รับค่าตอบแทนหรือหลักประกันรายได้เพิ่มขึ้น
โดยระบุ ว่า สำหรับการเรียนนวดเพื่อสุขภาพขั้นแรกจะใช้เวลาเรียน 150 ชั่วโมง ขั้นที่ 2 จำนวน 300 ชั่วโมง ขั้นที่ 3 จำนวน 500 ชั่วโมง แต่ในกรณีของผู้ที่เรียนครบ 150 ชั่วโมง แล้วนำไปปฏิบัติในการทำงานจนเกิดความชำนาญ จะให้ทางกรมการแพทย์แผนไทยและสภาแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย หารือเพื่อออกใบรับรองขึ้นทะเบียนให้แก่หมอนวด หากมีความสามารถในการนวดรักษาได้ใน 7 กลุ่มอาการ เพื่อสร้างผู้ที่มีความสามารถในการนวดเฉพาะทางเพิ่มขึ้น
นอกจากผลตอบแทนที่หมอนวดจะได้รับ การเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านของหมอนวดไทยยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจสุขภาพ รวมถึง จะทำควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนหมดนวด เนื่องจากหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายไทยสูญเสียผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวดแผนไทยไปราว 75,000-80,000 คน โดยส่วนใหญ่ไปทำงานต่างประเทศ ทำให้ประเทศขาดรายได้ไปกว่าแสน
ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมีร้านให้บริการนวดแผนไทยที่ขึ้นทะเบียนอยู่จำนวน 15,00 แห่ง ยังต้องการหมอนวดเพื่อสุขภาพราว 50,000 คน และหมอนวดรักษาอีก 20,000 คน โดยทางสภาการแพทย์แผนไทยได้เสนอให้ฝึกอบรมผู้ว่างงานที่สนใจเข้าร่วมอบรมฝึกการนวดทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่ง ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้กับกรมการแพทย์แผนไทยดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป