กาฬสินธุ์-แบบนี้ไม่จบ!! ข่มขู่พระ-ชาวบ้าน ร้องสอบ “7 ชั่วโคตร”
นายก.อบต.เจ้าท่า ลั่นทำอย่างนี้ประชาชนจะอยู่กันได้อย่างไร
หลังลือหึ่ง พระ-ชาวบ้าน ถูกข่มขู่ให้หยุด-เอาผิด ผู้ร้องเรียน 7 ชั่วโคตร ฮึ่มระวังขยายวงไปสู่ความเกลียดชัง ด้าน นายก.อบต.เจ้าท่า จับตากระบวนการตรวจสอบยอมรับได้ยินข่าวลือ พระ-ชาวบ้าน ถูกข่มขู่จริง สะท้อนใจเป็นแบบนี้ประชาชนคนกาฬสินธุ์จะอยู่กันได้อย่างไร วอนนายก.อุ๊งอิ๊ง ช่วยคนกาฬสินธุ์ด้วย
ปัญหาโครงการก่อสร้างพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หรือที่ชาวบ้านประณามว่า ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ล่าสุด ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.ฯ สรุปประเด็นปัญหาความล่าช้า ที่ประชุม กมธ.ป.ป.ช.ฯ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งจากการตรวจสอบการลงพื้นที่และการรับฟังคำชี้แจงจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ตัวแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตัวแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตัวแทนอธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าชี้แจง ร่วมถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเจ้าท่า จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ร้อง ส่วน ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เข้าร่วมประชุม และจะมีมติสรุปสำนวนการตรวจสอบทั้งหมดส่งไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช.ฯ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กรอบของกฏหมาย
ส่วน สตง. กมธ.ป.ป.ช.ฯจะมีการทำหนังสือให้ดำเนินการตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงวันบอกเลิกสัญญาว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ การก่อสร้างทั้ง 8 โครงการ ส่วน กรมโยธาธิการและผังเมือง กมธ.ฯ จะทำหนังสือเพื่อขอรายละเอียดทั้งหมดตามข้อพิรุธทั้ง 8 ข้อ และให้เร่งรัดจัดซื้อจัดจ้างใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนกรมบัญชีกลาง ที่ได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการขึ้นแบล็คลิสต์นั้น กรมบัญชีกลางแจงว่าจะสามารถประกาศขึ้นแบล็คลิสต์เวียนห้างทั้ง 2 หจก.(ผู้ทิ้งงาน) นี้ได้ไม่เกินปลายเดือนมกราคม 2568 ที่จะมีผลให้ผู้ทิ้งงานนี้หมดสิทธิ์เข้ารับงานประมูลงานจากหน่วยงานรัฐ ขณะที่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กมธ.ป.ป.ช.ฯ จะส่งบันทึกให้ชี้แจงสาเหตุการไม่เข้าร่วมประชุม กมธ.ฯ เพราะเป็นเรื่องพาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 กระแสการตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร โดย ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.ฯ พร้อมคณะ กมธ.ป.ป.ช.ฯ ที่ปรึกษาฯ เลขาฯได้สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ชื่นชมที่ กมธ.ป.ป.ช.ฯให้ความสนใจต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากโครงการนี้ แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้คงจะไม่จบลงที่กระบวนการก่อสร้างใหม่ และจะไม่จบลงง่ายอีกต่อไป เนื่องจาก มีกระแสข่าวลือว่ามีความพยายามที่จะเอาผิดกลุ่มประชาชน ผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึง พระสงฆ์ ที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบ โครงการ 7 ชั่วโคตร ตรงจุดก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำชี้ (ระยะที่ 2 ) ซึ่ง พระ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ได้ออกมาร้องเรียนไว้เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 และเป็นจุดที่ ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.ฯ นำคณะเข้าดูพื้นที่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนไปไปสู่การประชุม กมธ.ป.ป.ช.ฯ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.และเร่งการตรวจสอบกันทั้งระบบการทำงานโครงการฯ
นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันที่ 18 ธ.ค. ตนได้เข้าไปรายงานปัญหาให้กับ คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาฯ ยอมรับว่าดีใจที่ได้ส่งต่อปัญหาไปให้ผู้มีอำนาจในการเร่งรัดตรวจสอบและติดตาม แต่เท่าที่ฟังการรายงานจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง การดำเนินการก่อสร้างคงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะยังมีปัญหาการฟ้องร้องระหว่างผู้รับจ้างกับผู้บริหารสัญญา ดังนั้นตามที่กรมโยธาฯ อ้างว่าจะสามารถหาผู้รับจ้างเข้ามาได้ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าคงเป็นเพียงการซื้อเวลา แต่ก็ยอมรับว่าพร้อมที่จะเฝ้ารอคอย แต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็ขอให้ กรมโยธาฯ หรือผู้มีอำนาจใหญ่ในจังหวัดก่อนปีใหม่ช่วยหามาตรการวิธีการเข้ามาซ่อมแซมถนนหนทางในจุดก่อสร้างหรือตลิ่งที่ทรุด โดยเฉพาะที่วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.กมลาไสย เพราะสภาพหนักมากแล้ว ทั้งนี้ประชาชนจะติดตามปัญหานี้อย่างใกล้ชิด ทั้งการตรวจสอบโดย สตง. – กรมโยธาฯ – ป.ป.ช. โดยเฉพาะ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่ว่าจะทำการประกาศเวียนห้างผู้รับจ้างทิ้งงานทั้ง 2 หจก.นี้ ไม่เกินปลายเดือนมกราคม 2568 ได้จริงหรือไม่
“ต่อคำถามว่าขณะนี้มีข่าวลือว่ามีการ ข่มขู่พระ- ประชาชน ที่ออกมาร้องเรียน 7 ชั่วโคตร ได้ยินหรือไม่ นายก.อบต.เจ้าท่า ตอบว่าเรื่องการข่มขู่พระ – ชาวบ้าน ตนได้ยินจากประชาชนที่บอกต่อกันและกำลังทำการตรวจสอบที่ไปที่มา โดยเฉพาะ พระได้ยินว่าการที่พระออกมาร้องทุกข์ร่วมกับชาวบ้านพระมาเกี่ยวอะไรและว่าให้มีการตรวจสอบวินัยสงฆ์ ซึ่งหากเป็นความจริง ก็คงบอกได้แค่เพียงว่า บ้านเรากาฬสินธุ์นั้น ต่อไปคงจะอยู่กันลำบากแล้ว ประชาชนไม่มีที่พึ่งพิง ก็ได้แต่ขอให้ นายกรัฐมนตรี ”อุ๊งอิ๊ง“ สั่งการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ามาช่วยพี่น้องประชาชนด้วย“ นายธนกฤต กล่าวในที่สุด
ด้าน แหล่งข่าวแจ้งว่า มีความพยายามเอาผิดกับ ผู้นำชุมชน ประชาชน และพระ ที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบปัญหา 7 ชั่วโคตร เป็นกระแสข่าวที่สร้างความวิตกหวาดกลัวให้กับประชาชน ชาวบ้านเจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ที่เชื่อว่าสาเหตุจะเกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระ-ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ออกมาเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด นำเครื่องจักรเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับทางวัด ถนนหมู่บ้าน เนื่องจากสภาพตลิ่งทรุดตัวจากการกัดกร่อนของแม่น้ำชี้ จนทำให้อาคาร พระพุทธรูปจะไหลตกน้ำแล้ว และพระก็ต้องย้ายไปจำวัดห่างออกไปไกล ข้อเท็จจริงการร้องทุกข์ต้องการเพียงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเร่งรัดแก้ไขให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงาน ให้เสร็จ เนื่องจากคนกาฬสินธุ์ ใครๆ ก็รู้ว่า ทั้ง 2 หจก.นี้เป็นขาใหญ่ในกาฬสินธุ์ มีความสัมพันธ์กับ ผู้บริหารจังหวัดบางคน นักการเมืองระดับชาติ มีเส้นสายใหญ่โตในหลายกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ทำให้ได้งานก่อสร้างเป็นจำนวนมาก
กรณีการก่อสร้างไม่เสร็จจึงเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะคนกาฬสินธุ์เชื่อว่าหากทำจริงด้วยศักยภาพ จะต้องก่อสร้างได้แน่นอน อีกทั้ง หากผู้ใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ สนใจเข้ามาช่วยประคับประคอง ลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ให้มีการจัดวางเส้นทางให้สะดวกสบายทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนมีความสุขปัญหาต่างๆคงจะได้รับการแก้ไขไปในทางที่ดี แต่นี่กลับไม่ได้ให้ความสนใจในปัญหาของประชาชน การที่จะเอาผิดพระ ทางวินัยสงฆ์ ว่าพระมาร้องเรียนได้อย่างไรนั้น ยังรวมถึงผู้นำท้องถิ่น-พื้นที่ ที่ออกมาร้องเรียน ถือเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง หากเป็นเช่นนี้ปัญหาที่นอกจากจะเป็นเรื่องของ รับเหมา 7 ชั่วโคตร ก็คงจะขยายวงกว้างกลายเป็นความเกลียดชังกันระหว่างผู้ได้รับความเดือดร้อนกับผู้มีอำนาจในจังหวัด แทนที่จะต้องรีบเร่งเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความสุข ในทางกลับกันการร้องเรียนเพื่อความยุติธรรมต่อสังคม งบประมาณแผ่นดิน ที่ได้รับความเสียหายปัญหาทิ้งงาน 7 ชั่วโคตร กลายเป็นยาพิษที่หวนกลับมากลั่นแกล้งประชาชน- แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด