สืบนครบาล รวบ เครือข่ายยาเสพติด “อุ้ย ลาย” พร้อมลูกน้องคนสนิท ตรวจยึดเฮโรอีน 37 กิโลกรัม ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม เคตามีน 147 กรัม

สืบนครบาล รวบ เครือข่ายยาเสพติด “อุ้ย ลาย” พร้อมลูกน้องคนสนิท ตรวจยึดเฮโรอีน 37 กิโลกรัม ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม เคตามีน 147 กรัม
ตามนโยบายรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.สยาม บุญสม จตร. รักษาราชการแทนผบช.น.,พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ    รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น, พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ, พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ได้แก่

1.นายพีรพงศ์หรืออุ้ย อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา  ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้ถูกจับกุมที่1
2.นายนิติธรหรือแบงค์ อายุ 27 ปี ที่อยู่ ภูมิลำเนา ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ผู้ถูกจับกุมที่ 2
.
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน ) บรรจุภัณฑ์ห่อกระดาษไขตราประทับสิงโตคู่ จำนวน 100 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 37 กิโลกรัม
2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ด สีขาว บรรจุภัณฑ์ถุงชาสีเหลือง จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุงประมาณ 1 กิโลกรัม
3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ด สีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกดปิด-ดึงเปิด จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุงประมาณ 42.8 กรัม
4.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 หรือคีตามีน ชนิดผงสีขาวขุ่น บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด ดึงเปิด น้ำหนักรวมถุงประมาณ 51 กรัม
5.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 หรือคีตามีน ชนิดผงสีขาวขุ่น บรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด ดึงเปิด น้ำหนักรวมถุงประมาณ 95 กรัม
6.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ แฮปปี้วอเตอร์ ) ชนิดแบบผง บรรจุในซองสีดำลายการ์ตูน จำนวน 4 ซอง น้ำหนักรวมซอง 4 ซองประมาณ 78 กรัม
7.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
8.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเขียว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพหมานคร จำนวน 1 คัน/กุญแจ
.
โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน , จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ( คีตามีน ) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ แฮปปี้วอเตอร์ ) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนภายในซอยบางเลน 1 หมู่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ต่อเนื่อง ห้องพัก 113 ชั้น 1 หอพักพี.บี.อพาร์ทเม้น หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
.
พฤติการณ์ในการจับกุม ก่อนจับกุมตัวผู้ถูกจับในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เรื่อยมา จนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดชื่อ นายพีรพงศ์หรืออุ้ย อายุ 28 ปี ( ผู้ถูกจับกุมที่ 1 ) ได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเขียว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพหมานคร โดยจอดอยู่บริเวณ ริมถนนภายในซอยบางเลน 1 หมู่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ( สถานที่จับกุม ) ซึ่งจะได้นัดรับ-ส่งยาเสพติด จากบริเวณ อ.วังน้อย จ.อยุธยา หรือบางใหญ่ จ.นนทบุรี แล้วนำไปกระจายส่งให้กับลูกค้า พื้นที่แถวย่านกรุงเทพหมานคร และบริเวณใกล้เคียง ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค.2567 ช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. พบความเคลื่อนไหวของนายพีรพงศ์ฯ ได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเขียว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพหมานคร เคลื่อนที่ออกจากพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มุ่งหน้า จ.สุพรรณบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้จัดวางกำลังเฝ้าติดตามกลุ่มเป้าหมายโดยได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณ ซอยบางเลน 1 หมู่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. รถยนต์คันดังกล่าวได้ถอยรถเข้าจอดบริเวณ ริมถนนภายในซอยบางเลน 1 หมู่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ( สถานที่จับกุม ) โดยพบชายวัยรุ่น 2 คน ทราบภายหลังคือ นายพีรพงศ์ อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่ในรถยนต์คันดังกล่าว และ นายนิติธรหรือแบงค์ เป็นผู้โดยสารในรถยนต์คันดังกล่าว โดยหลังจากที่นายพีรพงศ์ฯและนายนิติธรฯ ลงจากรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วได้เชิญตัวนายพีรพงศ์ฯ และนายนิติธรฯ เป็นผู้นำตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวโดยละเอียด โดยก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ ของกลางลำดับที่ 1 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน ) บรรจุภัณฑ์ห่อกระดาษไขตราประทับสิงโตคู่ จำนวน 100 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 37 กิโลกรัม ซึ่งตรวจพบซุกซ่อนอยู่ภายในท้ายกระโปรงของรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเขียว ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพหมานคร
.
ในชั้นจับกุมผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 ราย รับว่า ของกลางรายการที่ 1 เป็นยาเสพติดเฮโรอีน ของตนทั้งคู่ ที่รับมาแถวริมถนน จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตัวจึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางทั้งหมด พร้อมได้แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 ราย ทราบ และได้แจ้งว่าจะต้องถูกจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ ผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 ราย ทราบดังนี้ว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เฮโรอีน ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ เป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายพีรพงศ์ฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 1 เข้าทำการตรวจค้น หอพัก อพาร์ทเม้น หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี (ที่พักอาศัยของนายพีรพงศ์ฯ) โดยนายพีรพงศ์ฯสมัครใจนำตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ผลการตรวจพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาไอซ์ ),วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 หรือคีตามีน,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ แฮปปี้วอเตอร์ ) ชนิดแบบผง ซุกซ่อนอยู่บริเวณ ใต้อ่างล้างจานซึ่งอยู่บริเวณระเบียงด้านหลังของห้อง สอบถามเบื้องต้น นายพีรพงศ์ฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 1 รับว่า ยาเสพติดให้โทษดังกล่าว เป็นของตนจริงมีไว้แบ่งขายให้ลูกค้าของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิให้นายพีรพงศ์ฯ ทราบโดยนายพีรพงศ์ฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมให้นายพีรพงศ์ฯ ผู้ถูกจับกุมที่ 1 ว่า “ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน , จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ( คีตามีน ) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือ แฮปปี้วอเตอร์ ) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ”
.
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ถูกจับกุมที่ 1 และ 2 ไปที่ กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อทำการขยายผลเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งว่าต้องถูกจับแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งสิทธิ ให้ทราบ นำตัวพร้อมของกลาง มาทำบันทึกการจับและดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ เรียบร้อย
จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ยาเสพติดถือเป็นปัญหาหลักของประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆในชุมชน เป็นบ่อเกิดให้สังคมถูกทำลาย ทำลายเยาวชน อันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนและสังคม ฉะนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่ายอมให้ยาเสพติดเข้ามาแพร่ระบาดในชุมชน ใครที่เสพหรือค้า ขอให้ท่านเลิก หยุดการกระทำ เจ้าหน้าที่สืบนครบาล จะดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ