สืบนครบาล รวบ บัญชีม้ามิจฉาชีพใช้ไลน์ทักมาอ้างว่าเป็นเพื่อนเก่า หลอกยืมเงินชำระสินค้า เนื่องจากโอนไม่ได้ชั่วคราว
สืบนครบาล รวบ บัญชีม้ามิจฉาชีพใช้ไลน์ทักมาอ้างว่าเป็นเพื่อนเก่า หลอกยืมเงินชำระสินค้า เนื่องจากโอนไม่ได้ชั่วคราว
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง, ร.ต.ต.วิทยา ศรีกระจ่าง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.,
ด.ต.สุขสันต์ คุณแสน ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ดำเนินการจับกุมตัว
น.ส.นันทิชา อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.953/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ” จับกุมบริเวณหน้าบ้าน ม.2 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
.
พฤติการณ์ ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ผู้แจ้งได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักที่เกิดเหตุ ได้มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นใครได้อ้างว่าเป็นเพื่อนของผู้แจ้งสมัยเด็กชื่อ จันทร์แรม ทักไลน์ส่วนตัวมา ขอยืมเงินชำระค่าสินค้าก่อน เพราะว่าธนาคารทำธุรกรรมไม่ได้ชั่วคราว จึงได้โอนเงินไปจำนวน 1 ครั้ง จำนวน 6,049.96 บาท โอนผ่านมือถือจากธนาคารกสิกรไทย ไปบัญชี ของน.ส.นันทิชา ผู้ต้องหา และจะหลอกให้โอนเงินไปเพิ่มอีก
ผู้แจ้งจึงได้โทรหาเพื่อนที่ชื่อจันทร์แรม ถึงทราบว่า เพื่อนไม่รู้เรื่อง จึงเชื่อว่าได้ถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงเดินทางมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ให้เพื่อนยืมบัญชีธนาคารไปใช้ประมาณ 2 ปีก่อน ไม่ทราบว่าเพื่อนเอาไปทำอะไร จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนผู้ที่ให้ยืม หรือขาย บัญชีธนาคาร ซึ่งถูกนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโอน รับโอน หรือชำระเงิน เป็นต้น ซึ่งการมีบัญชีม้าจะสามารถช่วยปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้ดำเนินธุรกรรมได้ และขอเตือนว่า บัญชีม้ามีอัตราโทษหนัก ทั้งปรับและจำคุก หากรับเปิด “บัญชีม้า-ซิมม้า” ตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ