“บิ๊กต่าย” สั่งเร่งระดมปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง “ผู้ช่วยสำราญฯ” สนองนโยบาย เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ารายย่อยทั่วประเทศ
“บิ๊กต่าย” สั่งเร่งระดมปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง “ผู้ช่วยสำราญฯ” สนองนโยบาย เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ารายย่อยทั่วประเทศ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศอ.ปส.ตร. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. จึงได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติตามนโยบายและข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ผู้รับผิดชอบงานปราบปรามยาเสพติด กำหนดให้ ตำรวจภูธรภาค 1 – 9 , กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมบูรณาการกับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 22 ส.ค.67 โดยมีเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 770 เครือข่าย เป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น 2,941 จุดตรวจค้น และวันนี้ได้เดินทางมาติดตามการปิดล้อมตรวจค้นจากทุกจุดทั่วประเทศซึ่งที่มีการรายงานผลแบบ Real Time มาที่ ศูนย์ปฏิบัติการ ห้องประชุมพรมนอก ชั้น 2 บช.ปส. พร้อมแถลงผลการปิดล้อมซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ การจับกุมคดียาเสพติดรวม 1,938 คดี ผู้ต้องหา 2,017 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด 126หมายจับ ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 11,040,694 เม็ด, ไอซ์ 645.51 กก., คีตามีน 177.47 กก, เฮโรอีน 2.23 กก., ยาอี 94 เม็ด อาวุธปืน 169 กระบอก ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน 827 รายการ รวมมูลค่า 136,155,089 ล้านบาท (ยอด ณ เวลา 10.00 น.)
จากผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศในครั้งนี้ จะเห็นว่าตำรวจทั่วประเทศได้รุกอย่างหนัก อย่างเป็นรูปธรรม ทำจริง จับจริง และยึดจริง โดยในขณะนี้สำนักตำรวจแห่งชาติมีนโยบายเน้นการปราบปรามผู้ค้ารายย่อยซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชนในชุมชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้ว่าจากสถิติการจับกุมและยึดของกลางคดียาเสพติด ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 – ปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดถึง 108,275 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติด เป็น ยาบ้า 883,601,155 เม็ด, ไอซ์ 21,246 กก., คีตามีน 4,761 กก., เฮโรอีน 1,336 กก., ยาอี 131,597 เม็ด และ โคเคน 52.6 กก. รวมทั้งการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องได้รวมมูลค่ากว่า 11,705 ล้านบาท
