มูลนิธิมุสลิมสงเคราะห์ผู้ประสบภัยจัดงาน Fifty fact 2024ระหว่างวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 เมษายน 67
มูลนิธิมุสลิมสงเคราะห์ผู้ประสบภัยจัดงาน Fifty fact 2024ระหว่างวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 เมษายน 67
เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน2567 ที่ผ่านมา ว่าที่.รต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น ในฐานะประธานอำนวยการจัดงาน Fifty fact 2024 โดยมูลนิธิมุสลิมสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ระหว่างวันที่ 19 ถึงวันที่ 21 เมษายน 67 ที่เอเชีย the river Front ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กทม. โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 เดินทางมางาน กล่าวสุนทรพจน์ ในเรื่องของสันติภาพของมวลมนุษยชาติและหลังจากนั้นได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยประธานอำนวยการจัดงานได้กล่าวรายงานวัตถุ ของการจัดงานในปีนี้หลังการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ตลอดระยะเวลา 30 วัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวันตรุษอีดิลฟิตตรึ โดยภายในงานจะมีการออกร้านอาหารและของใช้เสื้อผ้ามากกว่า 60 ร้านค้าโดยไม่หวังผลกำไรมอบรายได้ทั้งหมดให้กับมูลนิธิเพื่อนำไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในที่ต่างๆโดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมามูลนิธิมุสลิมสงเคราะห์ผู้ประสบภัยได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ด้วยการมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวในปากีสถาน ซีเรีย และ ตุรกี ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในปาเลสไตน์ เป็นต้น..และในรอบ 1 ปี มูลนิธิ พร้อมจิตอาสาได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 402 ราย ถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยมากกว่า 925 โดยใช้เงินกองทุนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2.19 ล้านบาท 
ซึ่งการจัดงานในปีนี้ก็เพื่อเป็นการจากเครือข่ายสมาชิกที่เคยให้การและต้องขอขอบคุณ คุณเจริญ วัฒนภักดีประธานกรรมการบริหาร และคณะผู้บริหารเอเชียทีค The riverfront ที่ช่วยเหลือให้ความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆในการจัดงานบำเพ็ญประโยชน์ในครั้งนี้ โดยในวันศุกร์ที่ 19 เมษายน ประธานในพิธีเปิดงานคือท่าน นวลน้อย ผลทวี อดีตผู้พิพากษาอาวุโสประจำศาลฎีกามาเป็นประธานในพิธี/ นอกจากนี้ยังมีแขกผู้มีเกียรติจากสำนักจุฬาราช เดินทางมาให้เกียรติบรรยายพิเศษซึ่งเป็นตัวแทนของท่านจุฬาราชมนตรีในครั้งนี้ด้วย “การเป็นมือบนที่คอยช่วยเหลือผู้ยากไร้เป็นการสร้างจิตสำนึกให้มนุษยชาติมีความรักและสันติภาพช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญในสังคมพหุวัฒนธรรม” มันจะนำมาซึ่งความผาสุขและสันติภาพให้ เพราะทุกคนอยู่ในผืนแผ่นดินไทยร่วมกันด้วยสันติ
