25/11/2024

กาฬสินธุ์-ผู้รับเหมางานโครงการ 148 ล้านแทบกระอักเลือด โวยขาใหญ่เบี้ยวค่าจ้าง ไม่จ่ายตามงวดงาน

กาฬสินธุ์-ผู้รับเหมางานโครงการ 148 ล้านแทบกระอักเลือด โวยขาใหญ่เบี้ยวค่าจ้าง ไม่จ่ายตามงวดงาน

 

ต้องวิ่งเต้นหากู้เงินนอกระบบหล่อเลี้ยงคนงาน เข้าเนื้อรายละ 5-10 ล้าน เบื้องต้นมีผู้รับเหมากว่า 50 รายได้รับความเดือดร้อน เตรียมตบเท้าแจ้งความฐานฉ้อโกงแรงงาน ตามมาตรา 344 และเรียกร้องกรรมาธิการ ปปง.-ปปช.สภาผู้แทนราษฎร ยกปัญหานี้ไปอภิปรายและเร่งรัดเรื่องนี้ด้วย
ผู้รับเหมาในจังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 50 ราย เตรียมตบเท้าแจ้งความเอาผิดบริษัทใหญ่ ที่มาลงงานในพื้นที่ในโครงการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมืองงบ 148 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 39 ล้านบาท ระบุรับช่วงงานมาแต่เบิกเงินไม่ได้ เดือดร้อนไปหาเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบมาจ่ายค่าแรงลูกน้อง ทุกคนแทบกระอักเลือด เนื่องจากเข้าเนื้อคนละ 5-10 ล้านบาท เตรียมล่ารายชื่อผู้รับเหมาที่ได้รับความเดือดร้อน ตบเท้าแจ้งความฐานฉ้อโกงแรงงาน ตามมาตรา 344


จากกรณี คณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ปปท.เขต 4 ลุยสอดส่องสืบโครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมืองงบ 148 ล้านบาท “สร้าง 7 ชั่วโคตรยังไม่เสร็จ” ร้องเรียนหลายแล้วก็ยังสร้างเสร็จ แม้กรมโยธาฯขยายเวลาให้จนใกล้ครบสัญญาแล้ว นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องตลิ่งริมแก่งดอนกลาง งบ 39 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นผู้รับเหมารายเดียวกัน ด้านชาวบ้านแฉซ้ำตั้งแต่ร้องเรียนทั้ง 2 โครงการ ไม่เคยเห็นบริษัทรับเหมามาทำงานก่อสร้างต่อ ทำให้เกิดปัญหาสะสมเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจเมืองกาฬสินธุ์พังยับกว่า 750 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น


ล่าสุด วันที่ 24 มีนาคม 2567 นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ในนามเครือข่ายยุติธรรมภาคประชาชน จ.กาฬสินธุ์ และผู้แทน หจก.ฮ.การช่าง แจ้งว่าได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาหลายราย ทั้งรายย่อย รายใหญ่ ที่เข้ามารับช่วงทำงานรับเหมาโครงการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองฯ และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องตลิ่งริมแก่งดอนกลางดังกล่าว ว่าที่ผ่านมาประสบปัญหาเบิกเงินค่าจ้างตามงวดงานกับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญารับจ้างกับกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยไม่สามารถเบิกเงินก้อนตามงวดงานได้เลย บางครั้งขอเบิก 5-6 แสนบาท ตัวแทนบริษัทซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายให้แค่ 2-3 หมื่นบาท ทำให้ผู้รับเหมาเหล่านี้เดือดร้อนหนัก ต้องนำที่ดินไปจำนองกับสถาบันการเงินและนายทุนนอกระบบ เพื่อมาจ่ายค่าแรงงานลูกน้องและจ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์


นายกอบโชคชีพกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมานาน ผู้รับเหมารายย่อย รายใหญ่หลายราย เคยไปตามทวงเงินถึงสำนักงานของบริษัทฯ ก็ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง โดยบอกปัดว่างานก่อสร้างยังไม่เสร็จจะมาเบิกเงินได้ยังไง ทั้งๆที่ไปขอเบิกตามงวดงาน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติที่ราบกันโดยทั่วไป แต่ตัวแทนของบริษัทฯ ก็เล่นแง่ที่จะไม่จ่ายค่าจ้าง ซึ่งสถานการณ์เป็นอย่างนี้สะสมเรื่อยมา จนต้องหาทางออกด้วยการนำโฉนดที่ไร่ที่นาของตนเองและญาติไปจำนองกับแหล่งเงินทุน เข้าเนื้อคนละไม่น้อยกว่า 5-10 ล้านบาท บางรายก็ขาดทุนย่อยยับ เพราะไม่มีเงินหมุนเวียน เช่น หจก.ฮ.การช่างเอง ก็แทบหมดเนื้อหมดตัว รถที่ใช้งานถูกยึดไป 3 คัน ธุรกิจรับเหมาย่ำแย่ ทั้งลูกพี่ ลูกน้องน้ำตาตกในไปตามๆกัน ได้งานทำหวังจะมีรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่กลับตาลปัตรเป็นเสียอย่างนี้ โดยมีสาเหตุมาจากสาเหตุเดียวคือบริษัทใหญ่เบี้ยวค่าจ้างผู้รับเหมาในพื้นที่


“ทั้งนี้ ทราบมาว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.67ที่ผ่านมา ยังได้มีผู้รับเหมากลุ่มหนึ่ง มาจาก จ.บุรีรัมย์ เข้าไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ และ ผู้อำนวยการ ปปท.เขต 4 ว่าบริษัทฯดังกล่าวค้างค่าจ้างตามงวดงานหลาย ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในจำนวนหลายราย ที่ผู้รับเหมาได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาบริษัทใหญ่ไม่จ่ายเงินตามงวดงาน และที่ผ่านมาตั้งปี 62-67 น่าจะมีผู้รับเหมาประสบปัญหาเดียวกันไม่น้อยกว่า 50 รายทีเดียว ซึ่งทราบว่าขณะนี้กำลังรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และรวมตัวกันไปแจ้งความเอาผิดบริษัท ฐานฉ้อโกงแรงงาน ตามมาตรา 344 ทั้งนี้ ล่าสุดทราบว่าสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหน่วยงานราชการในพื้นที่ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทดังกล่าวไว้แล้วที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ อย่างไรก็ตาม ขอวิงวอนผู้ใหญ่ช่วยกระตุ้นบริษัทดังกล่าว จ่ายเงินค่าจ้างครบทุกงวดงานให้ผู้รับเหมาที่มารับช่วงด้วย รวมทั้งอยากฝากถึงกรรมาธิการ ปปง.-ปปช.สภาผู้แทนราษฎร ได้ยกปัญหานี้ไปอภิปรายและเร่งรัดเรื่องนี้ด้วย” นายกอบโชคชีพกล่าวในที่สุด