23/12/2024

กมธ.ปปง.เล็งเจาะขุมทอง คดีบิ๊กโจ๊ก แนะ ปปง.ใช้กฏหมายฟอกเงินกับผู้ค้าทองคำ

S__8151638

กมธ.ปปง. เชิญ ตำรวจ – ปปง. ถกคดีพนักออนไลน์ ”มินนี่“ กลายเป็นไฟลามทุ่ง แนะ ปปง. เดินหน้าใช้กฏหมายฟอกเงินตรวจสอบผู้ค้าทองหากไม่ได้รายงานธุรกรรมทางการเงินตามทางกฏหมายซื้อขายทองกับ ”บิ๊กโจ๊ก“

 

 

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ห้องประชุมกรรมาธิการ N 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟกเงินและยาเสพติด (กมธ.ปปง.) สภาผู้แทนราษฎร นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ รอง ป.กมธ.ปปง. พร้อมคณะ กมธ.ปปง. ที่ปรึกษาและเลขานุการฯประชุมพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ น.ส.สุชานันท์ กุลวัฒนโยธิน หรือ มินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นคดีดังที่ประชาชนให้ความสนใจ

การพิจารณาได้เชิญ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งได้ส่งผู้แทนมาจำนวน 4 คน อาทิ นายสุวิจักขณ์ ธรรชัยพจน์ ผอ.กองคดี 1 นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฏหมาย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งผู้แทนมา 3 คน อาทิ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เข้าชี้แจงความคืบหน้าในคดี เกี่ยวข้องในเรื่องความผิดมูลฐาน ที่กำลังทำการสอบสวนติดตามดำเนินคดี ทั้งนี้ผู้ชี้แจงได้อธิบายถึงความเชื่อมโยง เส้นทางการเงิน รวมไปถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในการดำเนินคดีทั้งหมดที่ยังจะเดินหน้าเอาผิดตามกฏหมายเพราะคดีนี้ ปปง. ระบุว่า ไม่มีอายุความและสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้ตลอดเมื่อมีหลักฐานปรากฏชัด

นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฏหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า คดีนี้ “ปปง.” ได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด กรณีนี้หลังจาก ปปง. ได้รับทราบเรื่องจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ มีการประสานเพื่อรายงานเรื่องความผิดมูลฐาน มีการรายงานมายัง ปปง. ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2566 แนวทางการสืบสวนสอบสวนทางคดี “ปปง.” มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อรายงานว่าเป็นมูลฐานความผิดหรือไม่ ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 คณะกรรมการธุรกรรมมีการมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการยึดและอายัดทรัพย์สิน ทันที เบื้องต้นที่เป็นความผิดมีจำนวน 255 รายการ ผู้ถูกกล่าวหา มีทั้ง พลเรือนและข้าราชการ เมื่อยึดอายัดทรัพย์สิน เรียบร้อย ปปง. ได้ยื่นเรื่องไปยังพนักงานอัยการยึดทรัพย์เพื่อตกของแผ่นดิน จำนวน 41 ล้านบาท วงแรกดำเนินการไป และจะมี วงสอง วงสาม จะทำการยึดไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางการเงินเพราะคดีนี้ไม่มีอายุความ อีกทั้งกรณีนี้ผู้กระทำความผิด เป็นข้าราชการมีการวางแผนเป็นระบบที่เรียกว่า แผนประทุษกรรม เป็นบุคคลที่มีความรู้ จึงเป็นเรื่องยากในการยึดทรัพย์ จึงต้องสอบสวนเพื่อให้มีความเชื่อมโยง

พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาบางส่วนคดีเก่ากรณี ”มินนี่“ พนักงานอัยการ ได้มีคำสั่งฟ้องไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจทั้ง 8 นายรวมถึงนายตำรวจใหญ่ ปปช.ได้รับเรื่องไว้พิจารณาเอง
“การดำเนินคดีใหม่ พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในส่วนการใช้ประโยชน์จากเงิน เพราะเงินที่ได้มาผิดกฏหมาย รวมถึงเป็นเงินประโยชน์ส่วนตัว เงินรักษาพยาบาล เงินงานศพ โดยเส้นทางเงินมีการโอนออกจากบัญชีม้า 5-6 บัญชี ขณะนี้ได้นำหลักฐานทั้งหมดไปส่งศาล และศาลเห็นหลักฐานทั้งหมดพบว่ามีเส้นเงินจำนวนมาก ศาลมีมติ ไม่เอกฉันท์ แต่ให้ออกหมายจับและหมายเรียกรวม 5 คน ที่รวมไปถึง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งยืนยันว่าศาลไม่ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า น่าเชื่อว่ามีเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน จึงให้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 2-5 ที่มีตำรวจ 3 พลเรือน 1 ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 เป็นนายตำรวจใหญ่ศาลให้ออกหมายเรียก”

ด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ปปง. กล่าวว่า สิ่งที่ต้องให้ข้อสังเกต ต่อ ปปง. ตามระเบียบที่ได้รับการรายงานธุรกรรมมีการยึดอายัดทรัพย์ไปแล้ว มองว่า การสืบสวนทางการเงินได้พบความผิดปกติมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปถึงใครหรือไม่ หรือมีการประสานส่งข้อมูลแผนผังให้กับพนักงานสอบสวนหรือไม่ รวมถึงข้อสังเกต ต่อพนักงานสอบสวน “ตำรวจ” ได้รับข้อมูลจาก ปปง.หรือไม่ ถ้าได้รับข้อมูล ปปง.ได้ทำการสืบสวนต่อหรือไม่

“ในประเด็นเมื่อมีการพูดคุยตามข่าวเรื่องของทองในกรณีนี้ต้อง ฝาก ปปง. ในเรื่องของทอง ผู้ประกอบการค้าทองตามระเบียบทั่วไป ผู้ค้าทองจะต้องมีการรายงานธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเป็นการซื้อทองมากกว่าสองล้านบาท เพราะเชื่อว่าผู้ค้าทอง จะต้องมีการส่งรายงานทางการเงิน ดังนั้นของให้ ปปง.ได้ใช้กฏหมายฟองเงินเข้าไปขอคำชี้แจง ว่า ผู้ค้าทองมีการรายงานหรือไม่ เพราะเป็นเหตุอันสงสัย ประเด็นสำคัญมีกรณีศึกษา เกี่ยวกับการซื้อทองมีสองวิธี ในอดีตตนเคยทำคดีลักษณะนี้มี ข้าราชการผู้ใหญ่

มีการซื้อทองไปสองร้อยกิโล จนมีคดีขึ้นศาลและศาลตัดสินจำคุก เพราะสอบสวนพบว่า การซื้อทองจะมาในรูปแบบซื้อทองเป็นตั๋วฝากไว้ที่เป็นหลักฐานสำคัญ ดังนั้นต้องการให้ ปปง. ได้มีการสอบลึกหรือไม่ ว่าได้ใช้กฏหมายฟองเงินทำการสืบสวนถึงกรณีนี้หรือไม่ แล้วถ้าผู้ค้าไม่ได้รายงาน ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ค้าทองหรือไม่” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวในที่สุด

ด้าน นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ป.กมธ.ปปง. กล่าวขอบคุณตัวแทน ตำรวจ – ปปง ขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะภาพลักษณ์ขององค์กร ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เงินสีเทา ไม่ดีไปอยู่ไหนก็ไม่ได้ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ การติดตามคงจะมีเรื่องการขายทองปริศนา ที่จะต้องตรวจสอบต่อไปในการประชุมครั้งต่อไป

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป