ตาก – รมว.ต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดนตาก ดูศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไทย เมียนมา ตั้งในฝั่งเมียนมา ให้สภากาชาด 2 ประเทศ
ตาก – รมว.ต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดนตาก ดูศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไทย เมียนมา ตั้งในฝั่งเมียนมา ให้สภากาชาด 2 ประเทศ เป้าหมาย 3 หมู่บ้าน 2 หมื่นคน เชื่อหลังช่วยเหลือ สันติภาพคืนสู่เมียนมา
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะเดินทางไปที่ด่านพรมแดนไทย เมียนมา ( แม่สอด เมียวดี ) 2 สะพานมิตรภาพไทย เมียนมาแห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด โดยมีนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผวจ.ตาก พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชนในพื้นที่ จ.ตากให้การต้อนรับ จากนั้นคณะได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ การเดินทางดังกล่าวมีสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศไปติดตามข่าวศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไทย เมียนมา ที่มีข่าวเกิดขึ้นว่า ทางรัฐบาลไทย – เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด ต่อมาทางคณะได้ไปดูพื้นที่ด่านพรมแดนในจุดการขนส่งสินค้าระหว่างไทย กับเมียนมา และมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในเรื่องของศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไทย เมียนมานั้นตั้งในฝั่งเมียนมา โดยมีสภากาชาดไทยกับเมียนมา 2 ประเทศร่วมกันทำงาน มีเป้าหมาย 3 หมู่บ้าน 2 หมื่นคนในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ส่วนการส่งความช่วยเหลือจะใช้ช่องทางด่านพรมแดนแม่สอด –เมียวดี 2 เป็นจุดที่ส่งความช่วยเหลือระหว่างสภากาชาดทั้ง 2 ฝ่าย และให้สภากาชาดเมียนมานำสิ่งของจากเขตไทยไปบริหารจัดการในฝั่งจุดหมายฝั่งเมียนมา โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และทั่วถึงนายปานปรีย์ กล่าวว่า การตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับประชาชนชาวเมียนมาร์ที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆนั้นจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งเดือนนี้โดยจะเริ่มที่อำเภอแม่สอดเป็นจุดแรกในการที่จะร่วมกันระหว่างสภากาชาดไทยกับสภากาชาดเมียนมา โดยก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับทางฝ่ายเมียนมาซึ่งทางฝ่ายเมียนมาเห็นด้วยในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว และได้มีการประชุมร่วมกัน ฝ่ายเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับไปร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ตนเองได้ไปประชุมอาเซียนที่ประเทศลาว และได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ซึ่งสมาชิกประเทศอาเซียนเห็นด้วยในการที่จะตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องมนุษยธรรม และเรื่องปัญหาสุขภาพ จากนี้ไปประเทศลาวในฐานะประธานอาเซียนก็จะดำเนินการต่อไป
นายปานปรีย์ กล่าวว่า การเริ่มต้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้น ในอนาคตจะทำให้ไปสู่การเจรจากัน เพื่อสันติภาพ และลดปัญหาความรุนแรงได้ เพราะทุกฝ่ายปรารถนาเช่นกัน
///////
ภาพและข่าว วรภา พันลุตัน จ.ตาก