หนองบัวลำภู-งานผ้าป่าเลือดวัยรุ่นยิงคู่อริในโรงเรียนมีผู้บาดเจ็บ 3 รายตำรวจไล่ล่าติดต่อเข้ามอบตัวพร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.นากลาง ,พ.ต.ทประเสริฐ รัตนรุ่งโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.นากลาง ,พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ จันทร์ไทยธชา สว.สส.สภ.นากลาง พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายธนากร ฯ อายุ 20 ปี อยู่ที่ ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู , นายเอ ฯ(นามสมมุติ) อายุ 19 ปี อยู่ที่ ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พร้อมของกลาง ปลอกกระสุนปืนขนาดเบอร์ 20 จำนวน 1 นัด ,อาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 1 นัด ,รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว-ดำ ทะเบียน หนองบัวลำภู ,เสื้อยืดแขนสั้นสีดำที่ใช้สวมใส่วันก่อเหตุ จากนั้นได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กลางสนามโรงเรียนฯ แห่งนึ่ง
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 14.30 น ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ณ สนามกีฬาโรงเรียนแห่งนึ่ง ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่เกิดเหตุมีการแสดงหมอลำซิ่ง ในงานผ้าป่าสามัคคีศิษย์เก่าโรงเรียน ฯ เพื่อสมทบทุนสร้างโดมอเนกประสงค์ ในระหว่างการแสดงหมอลำซิ่ง มีวัยรุ่นใช้อาวุธปืน ลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ กระสุนลูกปราย ยิงกันจำนวน 1 นัด มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายประกฤษฎิ์ ฯ อายุ 21 ปี ถูกยิงที่ต้นแขนขวา มีรอยกระสุน 6 แผล และนายณัฐพงษ์ ฯ อายุ 33 ปี ถูกยิงที่ต้นแขนขวา และใบหู ส่วนชายอีก 1 คน โดนกระสุนเฉียดไปมีบาดแผลเล็กน้อย ฯ ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน หลบหนีไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง ได้ลงพื้นที่ติดตามและกดดันคนร้าย จนติดต่อทางญาติขอเข้ามอบตัว โดยมีนายธนากร ฯ อายุ 20 ปี เป็นคนยิง และมีนายเอ ฯ(นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เป็นคนขับรถพาหลบหนี หลังจากก่อเหตุได้นำปืนไปซ่อนไว้ที่สวนปาล์ม แห่งนึ่ง และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำอาวุธปืนของกลาง และรับสารภาพว่าได้มีเรื่องบาดหมางกันมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2566 ในงานบวช และวันนี้ได้มาเจอที่หน้าเวทีหมอลำในโรงเรียนฯจึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป