ลพบุรี-พลังท้องถิ่นตำบลเพนียด “คัดค้านไม่เอากังหันลม”

ลพบุรี-พลังท้องถิ่นตำบลเพนียด “คัดค้านไม่เอากังหันลม”

“ความคืบหน้าหลังจากที่ชาวบ้านได้มีการยื่นคัดค้านโครงการกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า” วันที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่วัดราชบรรทม ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีชาวบ้านรวมตัวกันมากกว่า 200 คน ด้วยทางกรมป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรีและสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ลพบุรี นำโดยนายกฤตติณ หลิมตระกูล ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานราชการจังหวัดฯ ต่อประชาชนในกรณีที่ชาวบ้านชุมชนเพนียด ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างกังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้าต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปเมื่อ เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยนายกฤตติณ หลิมตระกูล ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้ชี้แจงในเวทีมีรายละเอียดดังนี้

1. เมื่อปี 2529 พื้นที่บริเวณเขาตะเภานี้ถูกกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อคุ้มครอง ดูแล รักษาผืนป่าไว้ให้พ่อแม่พี่น้อง
2. หลังจากนั้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา กระแสการผลิตพลังงานทดแทนเริ่มแพร่หลายโดยเฉพาะในจังหวัดลพบุรี ซึ่งพื้นที่บริเวณป่าเขาตะเภา อยู่ในพื้นที่ช่องลมสามารถที่จะดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้
3. บริษัทกันกูลเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ยื่นขอเข้ามาทำประโยชน์ โดยก่อนหน้าที่จะได้รับอนุญาตจำเป็นจะต้องทำการศึกษาทางวิชาการก่อน โดยทางบริษัทก็ได้ยื่นขออนุญาตเข้าไปที่กรมป่าไม้และทางกรมก็ได้อนุญาตให้เข้าไปศึกษาทางวิชาการภายใน 2 ปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2564 และจะครบกำหนดวันที่ 30 สิงหาคม 2566
4. และจากการรับฟังโดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ก็พบปะประชาชนในพื้นที่ ก็พบว่าประชาชนในชุมชนเพนียดไม่เอาโครงการไฟฟ้าพลังงานลม และมีข้อเสนอให้กำหนดพื้นที่เขาตะเภาเป็น “ป่าชุมชน” เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และใช้สอยภายในชุมชน

โดยหลังจากคำชี้แจง นายกฤตติณ หลิมตระกูล ได้ระบุอีกว่า ทั้งสำนักงานทรัพยากรฯ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 รวมถึงคณะทำงานส่วนราชการ ได้มีข้อสรุปร่วมกันว่า พื้นที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการกังหันลมดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งอยู่ใน ต.เพนียด อีกส่วนอยู่ใน ต.วังเพลิง ในส่วนของ ต.เพนียด นั้น ชาวบ้านเห็นตรงกันว่าจะอนุรักษ์เขาตะเภา ไม่เอากังหันลม และเสนอขอให้กำหนดเขตป่าชุมชนจำนวน 4 ป่า เนื้อที่ 9,000 ไร่เศษ โดยสรุปคือ “เนื้อที่ป่าสงวนจำนวน 17,000 ไร่เศษ ชาวบ้าน ต.เพนียด ขอให้กำหนดเขตป่าชุมชนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในเขต ต.วังเพลิง ชาวบ้าน ต.เพนียด จะไม่ก้าวล่วง”

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมใจของชาวบ้านชุมชนเพนียด รักท้องถิ่น มีประชาชนที่อยู่ในเขตชุมขน ต.เพนียด เครือข่ายภาคประชาชน เครือข่ายทนายความ ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมืองฯ รวมถึงสื่อสาธารณะท้องถิ่นต่างๆ และนักข่าวพลเมืองฯ

สนอง แท่นสูงเนิน
ผอ.ศูนย์ข่าวฯ ประจำจังหวัดลพบุรี รายงาน