ขอนแก่น-ภาค 4 รวบขบวนการตัดไม้พะยูง 100 ล้าน กาฬสินธุ์ตัด 61 ต้นยังอืดเป็นเรือเกลือ
ขอนแก่น-ภาค 4 รวบขบวนการตัดไม้พะยูง 100 ล้าน กาฬสินธุ์ตัด 61 ต้นยังอืดเป็นเรือเกลือ
สืบสวน ภาค 4 ไล่ล่าข้ามจังหวัดรวบยกแก๊งขบวนการมอดไม้รายใหญ่ภาคอีสาน 8 ราย หลบหนี 2 ราย พบอดีตตำรวจเป็นหัวหน้าตระเวนตัดไม้พะยูงทั่วภาคอีสาน เบื้องต้นพบก่อเหตุมาแล้ว 25 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ส่วนเหตุลักลอบตัดและขายไม้พะยูงในที่ราชพัสดุในจังหวัดกาฬสินธุ์ 12 แห่ง จำนวน 61 ต้น การสืบสวนสอบสวนยังเงียบฉี่ ขณะที่ทางจังหวัดสรุปสำนวนส่ง สตง.กาฬสินธุ์ช่วยตรวจสอบ กลับชงเรื่องส่งต่อ สตง.เขต 7 ขอนแก่น เผยไม่อยู่ในกรอบอำนาจตรวจสอบของ สตง.จังหวัด
วันที่ 6 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 5 ต.ค.66 ที่กองบังคับการสืบสวน (บก.สส.ภ.4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.สุเมธ พิทักษ์เกียรติยศ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 ทำการควบคุมตัวนายยุทธนา อายุ 54 ปี ชาว จ.มหาสารคาม อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ด.ต.สังกัด ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมพวกอีก 7 คน ประกอบด้วย น.ส.สรารัตน์ อายุ 32 ปี ชาว อ.จตุพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด, นายอนุวัฒน์ อายุ 28 ปี ชาว อ.จตุรพัตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด, นายมะมี อายุ 32 ปี ชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร, นายปฐพี หรือจิโป่ม อายุ 27 ปี ชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร, นายณัฐวุฒิ หรือแดง อายุ 51 ปี ชาว อ.จตุรพัตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด, นายสมชาย อายุ 38 ปี ชาว อ.เมือง จ.มุกดาหาร และนายธีรศักดิ์ อายุ 29 ปี ชาว อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม (ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เปิดเผยชื่อและนามสกุล) พร้อมของกลางรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บร-8473 มหาสารคาม, รถยนต์กระบะเชฟโรเลต สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, รถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กร-7825 ราชบุรี และรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขค-5457 พิษณุโลก อุปกรณ์สำหรับตัดไม้, เชือก, แม่แรง, ค้อน รวมไปถึงสมุดบัญชีธนาคาร และซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวนหนึ่ง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายพร้อมกัน 15 จุด ตลอดทั้งวันในวันนี้ มาทำการสอบสวน หลังร่วมกันก่อเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในหลายจังหวัดของภาคอีสาน
พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด กระทำการกันเป็นขบวนการ โดยมีนายยุทธนา ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ รับงานมาจากพ่อค้าชาวต่างชาติ และส่งมอบงานให้กับผู้ต้องหาทั้งหมด ทำการออกหาต้นพะยูงและวางแผนกันตัดไม้จนกระทั่งแปรสภาพและส่งจำหน่ายไปในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีนายณัฐวุฒิเป็นมือขวา รับงานและร่วมกันวางแผนตัดไม้ในพื้นที่ต่างๆ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ ก่อเหตุในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน 21 ครั้ง ภาคอีสานตอนล่าง 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 25 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และหากพื้นที่ใดขัดขวางแม้จะเป็นชาวบ้านมาขวาง กลุ่มผู้ต้องหาก็จะใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ทันที
“กลุ่มคนร้ายจะมีพฤติการณ์ในการลักลอบตัดไม้พะยูง ตั้งแต่เวลา 00.00-04.00 น. โดยจะใช้รถกระบะหลายคันเป็นรถก่อเหตุ ซึ่งชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่และเฝ้าติดตามพฤติกรรม และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดข้ามจังหวัดจนกระทั่งพบนายณัฐวุฒิ ซึ่งหลังก่อเหตุได้มาแวะพักรถที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จากศาล จ.อุดรธานี 8 หมายจับ และศาล จ.มหาสารคาม 7 หมายจับ ก่อนกระจายกำลังตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหายกแก๊งตลอดทั้งวันในวันนี้” พล.ต.ต.ไพศาลกล่าว
พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้การจับกุมจะจับกุมตัวได้ 8 รายและหลบหนีไปได้ 2 ราย แต่ทางเจ้าหน้าที่จะไล่ล่าจับกุมอย่างเต็มที่ เพราะเป็นกลุ่มขบวนการรายใหญ่ที่ลักลอบตัดไม้พะยูงแบบมืออาชีพ ในหลายท้องที่และหลายครั้ง อันจะเป็นการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย อย่างไรก็ตาม แม้การสอบสวนผู้ต้องหาบางรายให้การปฏิเสธ แต่ด้วยพยานหลักฐานที่ชัดเจนของทางเจ้าหน้าที่ ก็จะมีการขยายผลเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวทั้งหมดต่อไป
ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ และในโรงเรียนในรอบปี 66 จำนวน 12 แห่ง ไม้พะยูงถูกตัดไปแล้วกว่า 61 ต้น แต่ยังไม่มีความคืบหน้าด้านคดี และไม่เคยปรากฏว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แม้แต่คนเดียว และในส่วนของการพิจารณาขององค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ท.-ป.ป.ช. ดีเอสไอ และ สตง.ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนวน คณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึก กรณีตัดไม้พะยูงโรงเรียน จ.กาฬสินธุ์สรุปผลและส่งให้ ยังไม่มีความคืบหน้า
นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึก กรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนกล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีหนังสือขอความร่วมมือกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียน โดยลงรับหนังสือเมื่อวันที่ 28 ก.ย.66 ล่าสุด ได้รับแจ้งว่าสำนวนดังกล่าว ทาง สตง.กาฬสินธุ์ ได้ส่งต่อไปที่ สตง.เขต 7 ขอนแก่นแล้ว โดยอ้างว่าจากการพิจารณาเบื้องต้น ไม่อยู่ในกรอบอำนาจตรวจสอบของ สตง.จังหวัด จึงต้องส่งไปที่ สตง.เขต 7 ช่วยตรวจสอบ.