24/11/2024

กาฬสินธุ์-โจรขโมยบันไดไม้พะยูงเรือนไม้โบราณฝาแฝดฉากหนังวัฒนธรรมภูไท

กาฬสินธุ์-โจรขโมยบันไดไม้พะยูงเรือนไม้โบราณฝาแฝดฉากหนังวัฒนธรรมภูไท
เกิดเหตุโจรบุกขโมยชานบันไดไม้พะยูงเรือนไม้ภูไทเก่าแก่ กลางหมู่บ้านกุดหว้า ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ครู กศน.ลูกสาวเจ้าของบ้านเผย เป็นเรือนไม้ภูไทโบราณฝาแฝด อายุเกือบ 100 ปี เป็นศูนย์อบสมุนไพรชาวภูไท และเคยมีกลุ่มสร้างหนังมาขอใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม 2 เรื่อง หลังเกิดเหตุแจ้งความตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์หลายวัน ยังเงียบหาย คาดคนร้ายหลบหนีลอยนวล
วันที่ 9 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่จ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 10 หมู่ 11 กลางหมู่บ้านกุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตัวบ้านสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ลักษณะทรงภูไทโบราณ ทราบว่าเป็นบ้านของนางทองศร ปัดลา โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้รับแจ้งจากนางอรชร แสงชมพู ครู กศน.ต.กุดหว้า ลูกสาวเจ้าของบ้าน หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้ามาลักขโมยชานบันไดที่ทำจากไม้พะยูง อายุเกือบ 100 ปีไป
นางอรชร แสงชมพู ครู กศน.ต.กุดหว้า อยู่บ้านเลขที่ 2564 หมู่ 1 ต.กุดหว้า ลูกสาวเจ้าของบ้านกล่าวว่า เหตุคนร้ายลักลอบขโมยชานบันไดดังกล่าว เกิดขึ้นในกลางดึกของคืนวันที่ 3 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งคืนนั้นฝนตกหนัก ที่บ้านมีเพียงนางทองศร ปัดลา ผู้เป็นแม่อยู่คนเดียว ส่วนตนและสามีอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งมาทราบในตอนเช้าของวันที่ 4 ก.ย.66ว่าชานบันไดขั้นแรก หรือบางคนเรียกว่าตีนบันได ขนาด 1×1 เมตร พร้อมเสาค้ำหน้ากว้าง 4 นิ้ว สูงประมาณ 1.50 เมตร 1 ต้นหายไป เหลือให้เห็นเพียงบันไดไม้ขั้นที่ 2 –ขั้นที่ 7 และร่องรอยดินที่เป็นหลุม ที่เกิดจากการขุดเอาเสาและชานบันไดออกไปเท่านั้น
นางอรชรกล่าวอีกว่า ชานบันไดและเสาค้ำบันไดดังกล่าว ตนมาทราบในตอนหลังว่าทำด้วยไม้พะยูง เพราะก่อนหน้านี้มีคนแปลกหน้ามาถามซื้อ 3-4 ครั้ง แต่แม่ไม่ขาย โดย 2 ครั้งหลังสุดปีที่ผ่านมาให้ราคา 3 หมื่นบาท ล่าสุดมีคนแปลกหน้ามาถามซื้ออีก โดยให้ราคา 5 หมื่นบาท แต่แม่ก็ไม่ยอมขาย กระทั่งมาเกิดเหตุถูกขโมยไปในคืนวันที่ 3 ก.ย.66 ดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของคนแปลกหน้ากลุ่มนี้ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี คาดว่าน่าจะมีประมาณ 3-4 คน แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาตรวจที่เกิดเหตุ เรื่องจึงยังเงียบหาย คนร้ายคงจะนำชานบันไดไม้พะยูงออกนอกพื้นที่ และส่งขายไปแล้ว
ด้านนายถวัลย์ แสงชมพู ข้าราชการ กศน.กุดหว้า สามีนางอรชร กล่าวว่า ตนเป็นบุตรเขยนางทองศร ปัดลา เจ้าของบ้าน ทราบว่าเรือนไม้ภูไทหลังนี้ ซึ่งเป็นไม้ทั้งหลัง ทรงภูไทโบราณ เป็นสินสมสร้างของพ่อตากับแม่ยาย อายุเรือนไม้หลังนี้น่าจะประมาณ 80 ปี เป็นเรือนไม้ภูไทฝาแฝดกับอีกหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ข้างกันทางทิศใต้ โดยเรือนไม้ภูไทหลังนี้ ยังเป็นศูนย์อบสมุนไพรพื้นบ้านของชาวภูไทกุดหว้า ขณะที่อีกหลังซึ่งอยู่ติดกันทางทิศใต้ เคยมีกลุ่มสร้างหนังสั้น มาขอใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมภูไท 2 เรื่อง
นายถวัลย์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเรือนไม้ภูไทฝาแฝดทั้ง 2 หลังนี้ คาดว่าจะมีเพียงชานบันไดและเสาค้ำที่ถูกขโมยไปเท่านั้นที่ทำจากไม้พะยูง ส่วนเครื่องเรือนอื่นๆเป็นไม้ทั่วไป อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุคนร้ายขโมยชานบันไดไปแบบ “ยกไปทั้งตีน” และแจ้งความถึงวันนี้ผ่านมา 5 วัน ยังไม่มีความคืบหน้าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับคนร้ายได้เลย ทั้งๆที่ได้แจ้งเบาะแส รูปพรรณสัณฐานบุคคลต้องสงสัยไปแล้ว จึงได้แจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ อีกทางหนึ่ง เพื่อช่วยติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นใครไม่ได้นอกจากบุคคลในวงการค้าไม้พะยูง