24/11/2024

กาฬสินธุ์-พบหลักฐานพยานบุคคลเปิดปากลากไส้แบ่งเค้กตัดไม้พะยูงพ่อค้าจ่ายเงินปึกลงบิลเงินปลีก

กาฬสินธุ์-พบหลักฐานพยานบุคคลเปิดปากลากไส้แบ่งเค้กตัดไม้พะยูงพ่อค้าจ่ายเงินปึกลงบิลเงินปลีก
ชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงจังหวัดกาฬสินธุ์สุดอึ้ง หลังประมวลข้อมูลลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ตัดไม้พะยูงขายในโรงเรียนหนองโนวิทยาคม และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อำเภอห้วยเม็ก ระบุนอกจากจะพบพิรุธตัดไม้พะยูงขายแบบไม่สมเหตุสมผลแล้ว จำนวนเงินที่มีการซื้อขายยังถูกแบ่งเค้ก แบบจ่ายเงินก้อนโตแต่ลงบิลเงินปลีก คาดพ่อค้าจ่ายจริงมากกว่า 700,000 บาท แต่ลงใบเสร็จส่งเงินเข้าหลวงเพียง 104,000 บาท เงินสดปึกใหญ่หายไปกว่า 600,000 บาท
จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงาน ทต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย และยังมีปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ให้นายหน้าเข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียน 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ล่าสุด ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะไต่สวนจัดชุดใหญ่ ตรวจสำนวนตำรวจ ส่วนชาวบ้านที่รักษ์ผืนป่าทยอยส่งหลักฐาน การประมูลไม้พะยูงตามโรงเรียนในเขต สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 หลายแห่ง โดยปรากฏที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก และที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก มีการนำหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพชายฉกรรจ์ 7 คน เข้าไปเจาะดูแก่นไม้พะยูง ภายในโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก และยังเกิดเหตุคนร้าย 5 คนอาวุธครบมือ ลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนโนนศิลาสว่างวิทย์ อ.ฆ้องชัย อย่างอุกอาจ ล่าสุด ชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ เรียกสอบบุคคลในภาพ ซึ่งพบหลักฐานเอกสารและการนำนายทุนเข้าเจาะไม้ วัดไม้ สำรวจก่อนประมูลขาย ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
วันที่ 7 กันยายน 2566 นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ร่วมกับนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายอดิสร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส. 1 นายกิตติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก และผู้นำชุมชน เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่ผ่านมานั้น พบพิรุธถึงความไม่เหมาะสมในการตัดไม้พะยูง รวมทั้งการบริหารจัดการเงินที่เข้าข่ายฉ้อราษฎร์บังหลวงชัดเจน
นายนิยมกล่าวอีกว่า จากการสรุปรายงานเบื้องต้น ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ไม้พะยูง 9 ต้น ราคาขายในใบเสร็จรับเงินจำนวน 104,000 บาท ขณะที่ราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปราคาประมาณ 304,550 บาท แต่ราคาประเมินของไม้ท่อนหวงห้ามของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 9 ต้น ปริมาตร 6.091 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,512,750 บาท ส่วนที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ จํานวน 3 ต้น ในราคาซื้อขายตามใบเสร็จรับเงิน 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ 2 ต้นหรือ 2 ตอ เนื่องจาก 1 ตอได้ขุดขายไปแล้ว ทั้งนี้หากราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปราคา ประมาณ 446,400 บาท ขณะที่ราคาประเมินของไม้ท่อนหวงห้ามของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 2 ต้น ปริมาตร 8.928 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,232,000 บาท ที่หากเทียบกับราคาที่ลงในใบเสร็จรับเงินจะเห็นว่าราคาต่างกันมากทีเดียว
ด้านนายสมภาร บุดดี ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนหนองโนวิทยาคม กล่าวว่าว่า ตามที่มีข่าวตัดไม้พะยูงโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี เมื่อวันที่ 17 ส.ค.66 ที่ผ่านมา และมีประเด็นเป็นการขายที่ผิดกฎหมาย และหลายฝ่ายลงความเห็นว่าการขออนุญาตตัดไม้ไม่สมเหตุสมผล ตนรู้สึกกังวลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจากก่อนหน้านี้คือวันที่ 15 เม.ย.66 ได้มีการตัดไม้พะยูงโรงเรียนหนองโนวิทยาคมที่ตนเป็นผู้บริหาร หลังจากทำหนังสือขออนุญาตไปที่ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อขออนุญาตตัดไม้พะยูงในเขตที่ราชพัสดุ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการประเมินราคามาสำรวจไม้ ร่วมประชุมคณะกรรกมารสถานศึกษา ก่อนทำสัญญาซื้อขาย จ่ายเงินจำนวนเงิน 104,000 บาท และต่อมา 3 วัน คือวันที่ 15 เม.ย.66 นายหน้าก็ได้นำรถบรรทุกพร้อมเลื่อยยนต์เข้ามาทำการตัดและขนไม้พะยูงไป ถึงวันนี้ตนยังรู้สึกเป็นกังวลในเรื่องการขออนุญาตตัดไม้พะยูงอยู่ เพราะมีข้อมูลเปรียบเทียบของประกาศหลายฉบับ ทั้งข้อมูลของจังหวัด ของกรมธนารักษ์ และระเบียบการให้อนุญาตของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์เอง
อย่างไรก็ตาม ตามที่ฝ่ายความมั่นคงได้สอบถามครู และกรรมการสถานศึกษา รวมทั้งข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุตรงกันว่าการตัดไม้พะยูงขายในโรงเรียนหนองโนวิทยาคม 9 ต้น ราคา 104,000 บาทนั้นมีลับคมใน และเพิ่งจะมีการเปิดเผยเป็นข้อมูลใหม่ในวันนี้
แหล่งข่าวระบุว่าก่อนการขออนุญาตขาย มีไทม์ไลน์เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียนอื่น คือเริ่มจากมีคนร้ายเข้ามาลักลอบตัด ทำให้ครู ผู้นำชุมชน ต้องเข้าเวรยามป้องกันรักษา จากนั้นก็ยังมีเหตุมาลักลอบตัดบ่อยครั้ง บางครั้งแค่มาตัดให้ไม้พะยูงโค่นล้ม บางครั้งขนย้ายไม้พะยูงไปด้วย กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ของธนารักษ์ และบุคคลภายนอก เข้ามาแนะนำให้ทำเรื่องขออนุญาตตัดขาย เพื่อที่จะได้หมดภาระเฝ้าระวังและได้เงินเข้าหลวง หากไม่ทำตามและเกิดเหตุคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดอีก จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งพอทำเรื่องขออนุญาต ก็ได้รับอนุญาตง่ายดาย ไม่มีการตรวจสอบความสมเหตุสมผล ต่อมาทำการเจาะไม้ ประเมินราคา ทำสัญญาซื้อขายราคาต่ำ ท่ามกลางกระแส “รับเงินปึกลงบิลเงินปลีก” เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ โดยขบวนการ “ฟอกขาว” แน่นอน
โดยที่โรงเรียนหนองโนวิทยาดังกล่าว แหล่งข่าวระบุว่ามีการประสานงานโดยคนของธนารักษ์ชื่อ “สันติ” มีการปลอมแปลงลายเซ็นคณะกรรมการสถานศึกษาบางคน มีการล็อคสเป็กผู้มารับซื้อไม้ โดยผู้รับซื้อไม้จะจ่ายเงินให้กับโรงเรียน 200,000 บาท บ้านหนองโน 2 หมู่บ้านๆละ 200,000 บาท รวม 600,000 บาท แต่พอมีการจ่ายจริงจ่ายจริงเพียงแห่งละ 133,000 บาท รวมจ่าย 399,000 บาท และลงจำนวนเงินในใบเสร็จรับเงินส่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 2 เพียง 104,000 บาท ทั้งนี้หากพ่อค้าจ่ายจริงจะได้ตัวเลขกลมๆ 600,000+104,000 บาท เท่ากับ 704,000 บาท ซึ่งราคาใกล้เคียงกับโรงเรียนคำไฮวิทยา จำนวน 22 ต้นกับอีก 2 ตอ พ่อค้าซื้อไม้พะยูงจ่ายจริง (ตามคำให้การของแหล่งข่าวภายใน) จำนวน 930,000 บาท ลงรับเงินในใบเสร็จ 153,000 บาท ซึ่งหากมีการจ่ายจริงที่โรงเรียนหนองโนวิทยา จำนวน 704,000 บาท หมายความว่าเงินก้อนใหญ่หายไปถึง 600,000 บาททีเดียว ทั้งนี้ข้อมูลตัวเงินซื้อขายดังกล่าว มีพยานบุคคลยืนยันชัดเจน ซึ่งอยู่ในสำนวนของชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์แล้ว เพียงแต่ว่าจะมีการเปิดเผยกระจ่างชัดเมื่อไหร่เท่านั้น
ขณะที่นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคำสั่งของทางจังหวัด ให้ทางอำเภอทำการสอบปากคำบุคคลในภาพ ซึ่งบันทึกจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนหนองโนวิทยา และโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ ขณะทำการเจาะไม้ วัดไม้ สำรวจก่อนประมูล ซึ่งครูและชาวบ้านระบุเป็นคนของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 นั้น ทางอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อทำบันทึกตรวจสอบและจะรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป