25/11/2024

สมุทรสงคราม -จัดประมูลทุเรียนสามน้ำ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานทั้งภาครัชและเอกชนร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก

สมุทรสงคราม -จัดประมูลทุเรียนสามน้ำ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานทั้งภาครัชและเอกชนร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก
วันนี้(23 มิถุนายน 2566)ที่สวนทุเรียน 3 น้ำ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประมูลทุเรียน 3 น้ำเพื่อการ กุศลเริ่มจาการ เสวนา “สมุทรสงครามกับทุเรียนพันธุ์สามน้ำ จริงหรือ” โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม
นายบรรจงศฺลป์ วุฒิอุทัย เกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม นายเอกชัย เทียนไชย เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ตำบลบ้านปราโมทย์ มีนางรุ่งนภา สงวนสมบัติ ดำเนินรายการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้บอกเล่าว่า สมุทรสงครามมีการปลูกเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว สมัยรัชกาลที่ 7 สมัยปู่-ย่า-ตา-ยาย ด้วยการใช้เมล็ดมาปลูก แต่เดิมทุเรียนปลูก ที่ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที และกระจายปลูกทุเรียน ในตำบลโรงหีบ ตำบลบ้านปราโมทย์ ตำบลบางสะแก ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที ,ตำบลแควอ้อม ตำบลเหมืองใหม่ ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมด้วยการเอา เมล็ดมาปลูก ทำให้มีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งชะนี กบเล็บเหยี่ยว กระดุม ก้านยาว และหมอนทอง แต่เมื่อปี 2520 มีการสร้างเขื่อนแม่กลอง เพื่อกักน้ำจืดในเขื่อน ทำให้ไม่มีการปล่อยน้ำจืดมาระบายน้ำเค็ม จึงส่งผลให้ทุเรียนตายเป็นจำนวนมาก แต่ต้นที่มีอายุกว่า 30 ปี ยังสามารถยืนต้นอยู่ได้ แต่ก็เหลือไม่มีมาก ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสงครามได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกแซมในสวนหลังบ้านกันขึ้น
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา,นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้เริ่มการประมูลทุเรียนหมอนทอง จำนวน 9 ลูก ก้านยาว 5 ลูก เพื่อหารายได้สบทบทุนมอบเป็นสาธารณกุศลเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมประมูลทุเรียนสามน้ำ เริ่มจากราคา 5,000 – 55,000 บาท รวมเป็นเงินจากการประมูลในครั้งนี้ จำนวน 471,000 บาท บรรยากาศการประมูลมีทั้งภาคเอกชน คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด สถานประกอบการ ส่วนราชการเข้าร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวด้วยว่า รายได้จาการประมูลทุเรียนสามน้ำในครั้งนี้ ได้ มอบให้เหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสงครามทั้งหมด เพื่อจะได้นำไปใช้ในการสงเคราะห์พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่มีงบประมาณเหมือนหน่วยงานภาครัฐ แต่ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาคในการที่จะเข้าไปให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ทุกข์ยากได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์

กวีชัย/สมุทรสงคราม