นราธิวาส-“ร.อ.ธรรมนัส” ฉายา “แมว 9 ชีวิต” เผยหมดเปลือก “ดีลลับ” ปิดสวิทซ์ นกม.ท้องถิ่น มั่นใจ “แบเลาะห์” แม้จะอ่อนหัด แต่เป็นครอบครัวการเมือง มั่นใจ! โค่นโต๊ะได้

นราธิวาส-“ร.อ.ธรรมนัส” ฉายา “แมว 9 ชีวิต” เผยหมดเปลือก “ดีลลับ” ปิดสวิทซ์ นกม.ท้องถิ่น มั่นใจ “แบเลาะห์” แม้จะอ่อนหัด แต่เป็นครอบครัวการเมือง มั่นใจ! โค่นโต๊ะได้

ขอเวลา 4 ปี ถ้าผมเปลี่ยนแปลงนราธิวาสไม่ได้ รอบหน้าไม่ต้องเลือกผม ถ้าเลือกเบอร์ 2 ผมจะทำให้คุณดู” วาทกรรมนี้คิดว่า คงจะจำกันได้ เมื่อต้องอาศัยลูกอ้อน “อับดุลลักษณ์ สะอิ” หรือ “แบเลาะห์” วัย 53 ปี เบอร์ 2 ก็งัดออกมาได้ มุ่งหวังเปลี่ยนแปลงนราธิวาส ที่โดนแช่แข็งถึง 20 ปี ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาล้ำหน้าบ้านใกล้เรือนเคียง….ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.วาระนี้ (4 ปี) ถึงดุเดือดเลือดซิบๆ ตั้งแต่เริ่มต้น จนจะถึงวันจริงอีก 2 วันเท่านั้น ก็ยังไม่มีใครยอมใคร 3 พรรคใหญ่ที่หนุนผู้สมัคร ถึงขั้นต้องลงมาช่วย “เครือข่าย” ที่ “แมว 9 ชีวิต” ลั่นไว้!

หาก วันนอร์ ปธ.สภาฯ นำทีมประชาชาติ ลงมาปิดท้ายการปราศรัยค่ำนี้ งานนี้มีเสียว ขณะที่ฟาก “ภูมิใจไทย” และ “กล้าธรรม” ผนึกกำลังเหนียวแน่น ทั้ง “ชาดา ไทยเศรษฐ์” และ “ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า” ดูทรงแล้วทำคะแนนให้ “แบเลาะห์” ได้เยอะเลย ช่วงนี้ทั้งในโซเชียลและสังคมร้านค้าร้านน้ำชา เริ่มเสียงแตก แบบผู้ที่สอบตกคง “เหวอ” ไปอีกนาน รู้ทั้งรู้ว่า..คนนราต้องการเปลี่ยนแปลง

มีโอกาสได้เจอ “ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า” ในวัย 59 ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง หลัง รมว.เกษตรฯ หาเสียงแบบได้ใจชาวบ้านสุดๆ เร่งเครื่องทำคะแนนช่วยเบอร์ 2 ก่อนคืนหมาหอน โดยมีบรรดา สส.นราธิวาสและ สส.จากภาคเหนือตามติดมาด้วย สะท้อนปัญหาด้วยคำถามที่ไร้คำตอบ…เกิดอะไรขึ้นกับนราธิวาส ? ไปๆมาๆ แต่ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนเลย ที่นี่มีทุกอย่างที่อุดมสมบูรณ์ ผลไม้ ยางพารา ทุเรียน อีกเยอะแยะ แต่การจ้างงานไม่เติบโต ธุรกิจการค้าชายแดนสมควรเติบโต แต่ก็ไม่มีอะไร…..ร.อ.ธรรมนัสคุยกับชาวบ้านที่มารอฟัง

การรวมพลังของ สส.ขาใหญ่นราธิวาสครั้งนี้ โดยกุนซือจาก กทม.ปิดสวิทซ์นักการเมืองท้องถิ่นได้ฉมังนัก มุ่งมั่นโค่น “บ้านใหญ่” ที่คนนราฯมองว่า อายุเยอะแล้ว สมควรพักผ่อน อยู่กับลูกหลาน ที่ผ่านมา “แช่แข็ง” จังหวัดและชาวนราธิวาส นานถึง 20 ปี ส่งผลต่อความรู้สึกของ “โต๊ะกู” ไม่น้อย จนต้องปรับทัพใหม่ เตรียมรับมือข้าศึกที่เข้าล้อมแบบ 2 รุม 1

Mimdset ของ “ร้อยเอก ธรรมนัส” ไม่ต่างจากคนในพื้นที่ที่รู้สึกมานาน ว่า อบจ.ทำอะไรบ้างที่ผ่านมา เห็นบ่อยคือเดินวิ่ง เพื่อ????………
“ผมถือว่าที่นี่เป็นบ้านของผมๆ ต้องให้ความใส่ใจ ก่อนหน้านี้เราพยายามที่จะคุยกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ให้แตกแยกกันเองระหว่างพี่น้อง สส.ทั้ง 5 เขต เราอยากพัฒนาบ้านเรา แต่ติดตรงกฎหมายไม่ให้ สส.ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณ เมื่อไม่มีงบประมาณจึงยาก อยากจะเอา อบจ.ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ทางการเมืองเป็นองค์กรในการขับเคลื่อนพัฒนา ผลักดันงบประมาณมาสร้างบ้านแปลงเมือง สร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้อง ผมโตที่นี่ พ่อแม่ผมอยู่ตากใบ ผมก็อยากพัฒนาบ้านเกิดผมที่ทรายขาวเหมือนกัน แต่ยิ่งอยู่ยิ่งถอยหลัง เราคุยกันว่าจะเอาใครลงดี นายกเก่าท่านเป็นคนดี แต่ด้วยวัย เป็นเรื่องสำคัญนะ สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก คนเราถ้าอายุเยอะแล้ว ถึงแม้ท่านจะผ่านประสบการณ์มากมาย

แต่การที่จะบริหารบ้านเมืองต้องใช้สมอง การใช้คอนเนคชั่น ตอนแรกว่าจะเอานายกไพซอลลง จะเอาเมธี ลาบานูนลง ท้ายสุดแล้วถ้าต่างคนต่างลงมันจะเกิดความแตกแยกในหมู่นักการเมืองท้องถิ่น คุยกับไพซอล ซึ่งทางไพซอลยอมถอย หัวใจนายแน่มาก แล้วให้เลาะห์ลง ถามว่าเลาะห์เป็นนักการเมืองมืออาชีพมั้ย ไม่ใช่ ต้องยอมรับ แต่ครอบครัวของเลาะห์เป็นนักการเมืองระดับชาติ คือ ดร.ซาการียา นายกมังเป็นนักธุรกิจที่มีความพร้อมในการเป็นนายกท้องถิ่น ผมว่าเราเอาคนที่เป็นผ้าขาวบริสุทธิ์มาเป็นผู้นำ แล้วเราร่วมกันสร้างคอนเนคชั่นสร้างเครือข่ายในการผลักดันงบประมาณ เลาะห์ไม่สามารถบริหารงานได้คนเดียว ต้องมีทีมงาน ในทีมงานนั้นผมและ สส.อีก 3 ท่านจะได้จัดเข้ามา ช่วยพัฒนาเมืองนราธิวาส ซึ่งมีพี่ใหญ่คือ อบจ.ผมเชื่อว่าเราเลือกผ้าขาวมาเป็นผู้นำดีกว่า ถึงแม้เค้าจะไม่เคยเล่นการเมือง แต่ผมเชื่อว่าเค้าจะทำได้ดี ผมเชื่อมั่นอย่างนี้ครับ”

ยุทธศาสตร์มันต้องทำ ผมจึงจำเป็นต้องลงมาพื้นที่ด้วยตัวเอง สองสามวันที่อยู่นราธิวาส หลายๆคนที่เป็นแกนนำในหมู่บ้าน เค้ารู้สึกว่าเค้ามีผม เค้ามี สส.เค้ามีเครือข่ายคือท่านชาดาไทยเศรษฐ์ เค้ามีความมั่นใจว่า แบเลาะห์จะเป็นผู้นำของเค้าได้ ตอนนี้ผมมั่นใจว่ากระแสจะตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ ณ วันนี้ ผมเชื่อว่า แบเลาะห์จะชนะการเลือกตั้ง เพราะชาวบ้านไม่อยากอยู่แบบเดิมๆ.

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส