รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มุ่งสร้างความเชื่อมั่น กวดขันการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มุ่งสร้างความเชื่อมั่น กวดขันการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ
วันนี้ (23 มกราคม 2568) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่มุ่งมั่นผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี หากนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ตน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ลงพื้นที่ประชุมติดตามการปฏิบัติตามมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ ภ.7 และตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รรท.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ , นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน , ผู้แทน ททท.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบของ ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 โดยเฉพาะอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี มีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รองรับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง สร้างรายได้ให้ประเทศเป็นจำนวนมาก
พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้สั่งการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เน้นการสร้างชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง โดยมีภาคีเครือข่ายภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยป้องกันอาชญากรรม ให้ประเมินสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ จัดแบ่งประเภทสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ ไว้อย่างเป็นระบบ นำมากำหนดออกแผนการออกตรวจร่วมกับตำรวจพื้นที่ ในระบบ POLICE 4.0 ในการออกตรวจให้เน้นการปรากฏกายของเจ้าหน้าที่ ออกตรวจตราตามจุดต่างๆ นำหลัก Stop Walk and Talk มาใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เป็นการตัดช่องโอกาสหรือขจัดปัจจัยที่จะทำให้มีอาชญากรรมเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ให้ X-Ray พื้นที่รับผิดชอบ จัดทำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวตามวงจรการท่องเที่ยว จัดทำข้อมูลกลุ่มผู้มีอิทธิพล การทำธุรกิจ ที่ดำเนินการโดยคนต่างชาติแล้วจ้างคนไทยจดทะเบียนบริษัทดำเนินกิจการที่ผิดกฎหมาย กวดขันปราบปรามกลุ่มที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์เถื่อน บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจท้องที่ และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เมื่อรับแจ้งเหตุจากนักท่องเที่ยว ให้ประสานตำรวจท้องที่เข้าระงับเหตุ หรือช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันท่วงที โดยยึดถือเป็นหน้าที่หลักของตำรวจท่องเที่ยวมืออาชีพ พร้อมกำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย ห้ามมิให้มีการเรียกรับผลประโยชน์กับนักท่องเที่ยวโดยทุจริต โดยเด็ดขาด
พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต่างทุ่มเทและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ อำนวยความสะดวกและยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ