ดาราและนายแบบจีนขอบคุณตำรวจไทยช่วยเหลือกลับประเทศโดยปลอดภัย ด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับสื่อนำเสนอ Fake News การทำงานของตำรวจ

วันนี้ (19 มกราคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการกับทุกภาคส่วนวางแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ การสกัดกั้นคนต่างชาติลักลอบเข้าเมือง และการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานยังประเทศที่สามโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน พร้อมบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือในระดับสากล

ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าดำเนินการโดยมีผลปฏิบัติการที่ดีขึ้นตามลำดับ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่ถูกหลอกลวง ประสานทางการประเทศต้นทางให้รับตัวกลับไปอย่างปลอดภัยหลายราย อาทิ นายหวังซิง หรือ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน , นายหยางเจ๋อฉี นายแบบชาวจีน , เยาวชนชาวญี่ปุ่น รวมทั้งชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นข่าว ทำให้ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ในการดูแลความปลอดภัยของตำรวจไทย

ด้านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทย ซึ่งได้ทำการช่วยเหลือ นายหวังซิง” หรือ ซิงซิง นักแสดงชายชาวจีน ผ่านทางเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ว่า สถานทูตจีนและสถานกงสุลใหญ่จีนประจำประเทศไทยขอขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับความพยายามและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือครั้งนี้ รวมทั้ง นายหวังซิง ได้แสดงความขอบคุณตำรวจไทย คนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือจนสามารถกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย

เช่นเดียวกับ นายหยางเจ๋อฉี นายแบบชาวจีน ได้โพสต์ขอบคุณตำรวจและทางการประเทศไทย ที่ได้ประสานงานจนช่วยเหลือกลับประเทศได้โดยปลอดภัย และล่าสุดทางผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เพื่อแสดงความขอบคุณในการให้ความช่วยเหลือติดตามตัวเยาวชนชายชาวญี่ปุ่น จนกระทั่งสามารถพากลับประเทศอย่างปลอดภัยในเวลาอันรวดเร็ว

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยมีการบังคับขู่เข็ญ หรือหลอกลวงให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยไม่ได้เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไม่มีการหลอกลวงชาวต่างชาติมาทำงานผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งแก๊งมิจฉาชีพมักจะใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านเพื่อพาผู้เสียหายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีสื่อต่างประเทศบางสื่อ ที่นำเสนอข่าวอันเป็นเท็จ หรือ Fake News ในการปฏิบัติงานของตำรวจไทย สร้างความเข้าใจผิด และสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประเทศไทย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวจะมีการดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป