01/01/2025

“พล.ต.อ.ประจวบฯ”ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กำชับกวดขันมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกการจราจร และตรวจติดตามการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

IMG_5860

“พล.ต.อ.ประจวบฯ”ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กำชับกวดขันมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกการจราจร และตรวจติดตามการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

วันนี้ (29 ธันวาคม 2567) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมกำชับและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. , พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม , ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าตอง , พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วย นายธรรมรงค์ ช่วยอักษร ปลัดอำเภอกระทู้ , นายษณกร กี่สิ้น รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ผู้แทนภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต

ตามนโยบายรัฐบาลที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตลอดจนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามมาตรการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ตลอดจนข้อกำชับสั่งการและข้อห่วงใยของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ผู้บังคับบัญชา/หัวหน้าหน่วย ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทาง ปริมาณรถ ปรับแผนการปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อมูลในภาพรวม ให้มีผลการปฏิบัติใน 10 ข้อหาหลัก อย่างต่อเนื่อง จริงจัง เน้นการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ต้องปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีและกฎหมาย และใช้กิริยาวาจาสุภาพ ตลอดจนบริหารจัดการพื้นที่จัดงานเคาท์ดาวน์ให้เหมาะสม มีการคัดกรองบุคคล เส้นทางฉุกเฉิน การเข้าระงับเหตุในพื้นที่ ปริมาณคนต้องเหมาะสมกับพื้นที่ โดยต้องมีแผนเผชิญเหตุทางน้ำด้วย พร้อมเฝ้าระวังกวดขันเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า การเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง อีกทั้งดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนตามโครงการฝากบ้าน 4.0 เพิ่มวงรอบการตรวจ อย่าให้มีเหตุเกิดขึ้นกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการและชุมชนโดยรอบโดยเด็ดขาด สืบสวนหาข่าวและประสานการปฏิบัติกับฝ่ายปกครองบริหารเหตุการณ์ โดยแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน ตลอดจนเพิ่มความเข้มออกตรวจป้องกันลักทรัพย์ในเคหสถานของประชาชน เน้นการปรากฏกายของเจ้าหน้าที่ และเพิ่มวงรอบตรวจตราจุดเสี่ยง โดยเฉพาะความผิดค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ยาเสพติด อาวุธปืน และการพนัน เน้นการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ป้องกันกลุ่มที่รบกวน เอาเปรียบนักท่องเที่ยว รถรับจ้างที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว และมัคคุเทศก์เถื่อน กรณีเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยวให้รีบหาสาเหตุ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดประชาสัมพันธ์ตามแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่า “เมืองไทยปลอดภัย” ตลอดจนห้ามข้าราชการตำรวจทุกนายเรียกรับผลประโยชน์กับนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจตราสถานที่สำคัญ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ สนับสนุนการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ เฝ้าระวังการลักลอบขนย้ายและจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนเตรียมพร้อมมาตรการทางการแพทย์ และผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญผู้ใต้บังคับบัญชา แนะนำการปฏิบัติ ตรวจสอบการแต่งกาย อุปกรณ์ ให้พร้อมปฏิบัติ

จากนั้น พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนอาสาสมัครและภาคเอกชนร่วมประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ในมาตรการป้องกันปราบปรามและระมัดระวังตนเองจากอาชญากรรม ตลอดจนข้อห่วงใยแนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยว สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมการปฏิบัติในช่วง 10 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 อย่างมีประสิทธิภาพ มีการตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 131 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,055 นาย จุดสกัด 58 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 340 นาย
ชุดเคลื่อนที่เร็ว 124 ชุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 611 นาย รวมกำลังพลทั้งสิ้น 2,006 นาย พบการปฏิบัติตามมาตรการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป