“ผบช.ภ.2” สั่งคุมเข้มอาวุธ ป้องกันเมาทะเลาะวิวาทในแหล่งท่องเที่ยว กำชับทำคดีอย่างเป็นธรรม เหตุแทงหนุ่มญี่ปุ่นดับ พร้อมประสานสถานทูต ช่วยเหลือจัดการศพ
“ผบช.ภ.2” สั่งคุมเข้มอาวุธ ป้องกันเมาทะเลาะวิวาทในแหล่งท่องเที่ยว กำชับทำคดีอย่างเป็นธรรม เหตุแทงหนุ่มญี่ปุ่นดับ พร้อมประสานสถานทูต ช่วยเหลือจัดการศพ
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) สั่งการตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี สอบสวนคดีทำร้ายชาวญี่ปุ่นจนเสียชีวิต หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา อย่างเป็นธรรมรอบคอบ และกำชับให้ออกมาตรการเข้มในการเฝ้าระวังกลุ่มคน บุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ป้องปรามการทะเลาะวิวาท การดื่มสุรา การรวมกลุ่มสังสรรค์ ของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่อาจสุ่มเสี่ยงนำไปสู่การทะเลาะวิวาทรุนแรง โดยย้ำว่าต้องเพิ่มความถี่ในการออกตรวจ แสดงกำลังหรือปรากฏกายของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งการสุ่มตรวจค้นอาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนมาก
ผบช.ภ.2 เผยถึงเหตุการณ์ทำร้ายชาวญี่ปุ่นว่า รับรายงาน จาก พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.57 น. วันนี้ (29 ธันวาคม 2567) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุตรวจสอบพบชายชาวญี่ปุ่นถูกอาวุธมีดแทงที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัส ในย่าน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยา โดยนอนหมดสติ ทราบชื่อ นายเซตะ อายุ 27 ปี ประสานนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเดวิด อายุ 36 ปี ชาวไทย สามารถควบคุมตัวได้ทันทีในที่เกิดเหตุ สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเห็นผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกับแฟนสาว ถึงขั้นทำร้ายร่างกายอยู่ริมถนน จึงเข้าห้าม เกิดการชกต่อยกัน ก่อนแยกย้าย แต่ผู้เสียชีวิตได้กลับมาหาผู้ก่อเหตุอีกครั้งพุ่งเข้าจะชกต่อย ผู้ก่อเหตุจึงใช้มีดแทงไปที่ผู้เสียชีวิตจนล้มลง แล้ววิ่งหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุมตัวไว้ได้
“คดีนี้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ยึดมีดของกลาง สอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ให้ผู้เห็นเหตุการณ์ชี้ภาพยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร รพ.ตำรวจ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผู้ต้องหา ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหา โดยได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม รอบคอบ พร้อมประสานสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานญาติ และจัดการศพด้วย” ผบช.ภ.2 กล่าว