ผลลัพธ์เยี่ยม! “เผ่าภูมิ” ชี้ “เงิน 10,000” ดันดัชนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-SME-อุตสาหกรรม พุ่ง 3 ตัว พร้อมกัน
ผลลัพธ์เยี่ยม! “เผ่าภูมิ” ชี้ “เงิน 10,000” ดันดัชนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-SME-อุตสาหกรรม พุ่ง 3 ตัว พร้อมกัน
——————–
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนตุลาคม 2567 และพฤศจิกายน 2567 ดีขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือนติด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 14.55 ล้านคน ที่ดำเนินตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา สะท้อนผ่านดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ดัชนี ดังนี้
1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confident Index: CCI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือน จาก 55.3 จุด ในเดือนกันยายน 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 56.0 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 56.9 จุด ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises Sentiment Index: SMESI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน จาก 49.6 จุด เพิ่มขึ้นเป็น 52.2 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 53.0 จุดในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเพิ่มกำลังซื้อในตลาด
3) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (Thai Industrial Sentiment Index: TISI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 87.1 จุด เป็น 89.1 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 จากการผลิตและยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในบ้าน และอุปกรณ์การเกษตร และปุ๋ยเคมี ที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัวและตอบสนองต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจำเป็นที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันและภาคการเกษตร
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ดัชนี ข้างต้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค ภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ SMEs ที่มีการตอบสนองที่ดีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสะท้อนถึงความคาดหวังในทิศทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะการปรับตัวดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศในระยะต่อไป