ร้อยเอ็ด...ส่อวุ่น...มหากาฬ...สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด กว่า 120 คน ร่วมแต่งชุดดำขอความเป็นธรรม

กลุ่มพิทักษ์ความถูกต้อง ปกป้องความชอบธรรม ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ร่วมแต่งชุดดำยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ให้แก่นายสุชาติ พุทธลา ผู้ได้รับการสรรหาที่จะได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ให้เลือกเป็นประธานสหกรณ์ แทนคนเดิมที่หมดวาระแต่ถูกดำเนินคดี

วันนี้ (14 ธ.ค.67) เวลา 10.30 น. นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด-แกนนำกลุ่มพิทักษ์ความถูกต้อง ปกป้องความชอบธรรม ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายลือชัย ศรีหาคลัง และแกนนำกลุ่มพิทักษ์ความถูกต้อง ปกป้องความชอบธรรม ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด นำสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด แต่งชุดสีดำจำนวนประมาณ 120 คน ร่วมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ให้แก่นายสุชาติ พุทธลา ผู้ได้รับการสรรหาที่จะได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ให้เลือกเป็นประธานสหกรณ์ แทนคนเดิมที่หมดวาระแต่ถูกดำเนินคดี ที่ บริเวณด้านหน้าอาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมชูป้ายเรียกร้อง ” save suchart” สกัดกั้นผู้ที่จะมาเป็นประธานใหม่ ก่อสร้างไม่โปร่งใส ประกันมีเงื่อนงำ ทำได้ไง ” “65 ปี ไม่เคยมีในสหกรณ์ ฟ้องเรียก 13 ล้าน เป็นต้น

นายประจวบ นาก้อนทอง นายกสมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ที่พวกเรามาในวันนี้จุดประสงค์ที่สำคัญก็คือมาขอความเป็นธรรมต่อว่าที่ประธานคนใหม่หรือนายสุชาติ พุทธลา เนื่องจากว่าคณะกรรมการชุดนี้ชุดที่ 62 ได้มีมติที่จะฟ้องนายสุชาติ พุทธลา กับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด นั้น ซึ่งพวกเราคิดว่าท่าน สุชาติฯ มีนโยบายที่จะลดค่าใช้จ่ายให้กับเพื่อนสมาชิก ได้แก่ลดดอกเบี้ย ลดเงินประกัน หรืออะไรต่างๆที่จะลดภาระได้ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือท่านเป็นเลขานุการของคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา ท่านจะมีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้ได้ และมีนโยบายว่าดอกเบี้ยของสหกรณ์น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.75 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิกลง ประเด็นสำคัญคือท่านไม่ได้ทำหนังสือเพื่อประโยชน์เพื่อส่วนตนเป็นการทำหนังสือเพื่อมวลสมาชิกทั้งหมด จึงถูกฟ้องคดี ดังกล่าว จึงมาขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจในครั้งนี้

ทางด้านนายลือชัย ศรีหาคลัง ที่ปรึกษาและผู้ประสานงานกลุ่มพิทักษ์ความถูกต้อง ปกป้องความเป็นธรรมในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด หนึ่งในแกนนำคนสำคัญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การมาร่วมกิจกรรมอย่างสันติวิธีในครั้งนี้ เกิดจากการที่ท่านว่าที่ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด คนใหม่ มีมูลฟ้องเกิดจากท่านว่าที่ประธานสหกรณ์ฯ ได้ทำหนังสือไปถึงบริษัทประกันฯ เพราะว่าสหกรณ์นั้นได้มีมติเลือกบริษัทประกันฯ แล้ว
แต่คณะสมาชิกเห็นว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการสรรหาบริษัทประกันฯ ถ้าการสรรหาบริษัทประกันฯ มีความโปร่งใสจะสามารถเก็บเบี้ยประกันได้ต่ำกว่านี้อย่างแน่นอนและเป็นบริษัทฯ ที่ใหญ่พอกันกับบริษัทเดิมที่ทำมานานแต่คณะกรรมการไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกเพราะอ้างว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการฯ
พวกเราจึงไปยื่นหนังสือเปิดประชุมวิสามัญเพื่อให้มีการคัดค้านบริษัทประกันเดิม ประกอบกับนายสุชาติ พุทธลา ได้รับการสรรหาซึ่งอยู่ระหว่างได้รับการสรรหามาเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูคนใหม่มีนโยบายที่เห็นว่าเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ในระหว่างช่วงรอยต่อการเปลี่ยนประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดนี้ เนื่องจากนายสุชาติฯ อยู่ระหว่างการรอรับรองการเป็นประธานตัวจริง แต่ได้ทำหนังสือไปยังบริษัทประกันจริง เพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกตรงนี้จึงทำให้คณะกรรมการสหดกรณ์ชุดปัจจุบัน นำมาเป็นประเด็นจับผิดนายสุชาติฯ เลยกลายเป็นประเด็นทำให้สหกรณ์นำไปฟ้องร้องเรียกเงิน 13 ล้านบาท จากนายสุชาติฯ ในประเด็นที่ว่านายสุชาติฯ แอบอ้างเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ทำหนังสือไปหาบริษัทประกันฯ ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดเสียหาย จึงมีคดีความดังกล่าว

อนึ่ง โดยมวลสมาชิก ได้วิเคราะห์แล้วว่าอาจจะเป็นการกลั่นแกล้งนายสุชาติฯ และอาจขาดสิทธิการเป็นเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ก็ได้ นายลือชัยฯ ยังกล่าวย้ำว่า ถ้าหากสมาชิกเราไม่ได้มีการตอบรับจากคณะกรรมการชุดนี้ หรือมีการเจรจากันให้เข้าใจที่สามารถตกลงกันได้ ในวันประชุมใหญ่สหกรณ์ที่จะมาถึง ในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 นี้ มวลสมาชิกอาจจะไม่ร่วมประชุมหรืออาจจะมีประเด็นในการชุมนุมของสมาชิกมากขึ้นก็ได้ นายลือชัยฯ กล่าว
ด้านนายสุริยา โคตะชัย ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในส่วนของตนเองตอบคนเดียวหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งทันทีไม่ได้ทุกอย่างจะต้องเข้ามติที่ประชุมของคณะกรรมการร่วม เพราะว่าอำนาจการบริหารเป็นของคณะกรรมการที่มีการบริหารเป็นคณะ ในส่วนตนเองทำหน้าที่เป็นประธานไม่มีหน้าที่ที่จะสามารถสั่งการได้ ประธานมีหน้าที่ทำตามมติของคณะกรรมการ เท่านั้น สำหรับในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 เป็นการเปิดประชุมสามัญประจำปี 2567 คณะกรรมการชุดเดิมยังมีหน้าที่ในการดำเนินการมีสิทธิ์เต็มที่ตามระเบียบ และข้อบังคับ ในส่วนของคณะกรรมการชุดใหม่ก็จะดำเนินการต่อหลังจากวันที่ 22 ธันวาคม 2567 สำหรับชื่อของนายสุชาติ ฯ จะถูกนำเสนอในที่ประชุมวันที่22 ธันวาคม 2567 แน่นอน และหรือนายทะเบียนสหกรณ์ฯเห็นเป็นอื่นใดก็ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการฯ ยืนยันตนเองทำทุกอย่างตามมติและข้อบังคับของสหกรณ์ฯ ผู้บริหาร-สมาชิกสหกรณ์ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน ให้รอดูวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นี้

ช่วงท้ายนายไพรินทร์ สินธุไพร และนายจอมขวัญ แสงแก้ว สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดได้ร่วมแสดงความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า ที่เดินทางมาวันนี้ก็เพื่อให้กำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย อยากจะให้คุยกันด้วยดี ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันคุยกันด้วยเหตุและส่วนตัวมองว่านายสุชาติ พุทธลา ว่าที่ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด คนใหม่ มีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาชิกลง และที่สำคัญคือ นายสุชาติฯไม่ได้ทำหนังสือเพื่อประโยชน์ของตัวเองแต่หากเป็นการทำหนังสือเพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกทั้งหมดถ้าจะมาถูกฟ้องดำเนินคดี ดังกล่าวมันก็ไม่ยุติธรรม จึงอยากจะให้ผู้ที่มีอำนาจทบทวนแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว หรือหาข้อยุติโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด จะได้เป็นแบบอย่างที่ดี ตัวอย่างที่ถูกต้องให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศได้นำไปปฏิบัติ ดั่งวิสัยทัศน์(Vision)ที่ว่า เป็นสหกรณ์ชั้นนำในระดับประเทศ ที่มีความมั่นคง สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดี บริหารจัดการด้วย หลักธรรมาภิบาล นายไพรินทร์ สินธุไพร และนายจอมขวัญ แสงแก้ว สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด ทั้ง 2 ท่าน ได้กล่าวไว้ในที่สุด
บรรยากาศการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่นายสุชาติ พุทธลา ว่าที่ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ด คนใหม่ ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมต่างทยอยแยกย้ายกันเดินทางกลับในเวลา 11.45 น.