สืบนครบาล ตามรวบ “อชิ หนองแขม” ดีเจหัวร้อนหลังร่วมกับเพื่อน ก่อเหตุยิงคู่อริทางโซเชียลบาดเจ็บสาหัส
สืบนครบาล ตามรวบ “อชิ หนองแขม” ดีเจหัวร้อนหลังร่วมกับเพื่อน ก่อเหตุยิงคู่อริทางโซเชียลบาดเจ็บสาหัส
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ตลอดจนบุคคลหรือกลุ่มแก๊งที่ใช้อาวุธปืนทำร้ายคู่กรณีหรือผู้บริสุทธิ์ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายที่เคยเป็นคู่อริกันก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าไม้กั้น รปภ.บริเวณหน้าหมู่บ้านเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปใส่กลุ่มผู้เสียหายกลางงานวันเกิดของผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น.
.
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบคนร้ายที่ก่อเหตุและเสนอศาลพิจารณาออกหมายจับ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย
1) นายพิสิษฐ์ หรืออชิ อายุ 19 ปี (มือยิง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.602/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน
2) นายสุรศักดิ์ หรือต๊ะ อายุ 21 ปี (คนขับขี่รถจักรยานยนต์) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.603/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน
.
แต่ผ่านมากว่า 2 เดือน ยังไม่สามารถสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ผู้เสียหายจึงร้องเรียนผ่านเพจ ” สืบนครบาล IDMB ” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะมือยิงให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายและครอบครัวเกรงกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้ เร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ให้รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากตามพฤติการณ์ก่อเหตุมีลักษณะการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
.
และต่อมาวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี ,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , เอกภพ พันธุ , ร.ต.อ.นุรุต ฐิติชรัล , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัว
นายพิสิษฐ์ หรืออชิ อายุ 19 ปี ภูมิลำเนา แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.602/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน (ซึ่งเป็นมือยิง) โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ซอยเพชรเกษม 116 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่ผู้ต้องหาเพิ่งย้ายหลบหนีมาเช่าพักอยู่
.
ในชั้นจับกุม นายพิสิษฐ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจนชั้นป.6 ทำงานเป็นดีเจอิสระ ในวันเกิดเหตุตนรับสารภาพว่าตนเป็นคนใช้อาวุธปืนที่ตนซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ในราคากระบอกละ 30,000 บาท มาใช้ยิงคู่อริซึ่งมีปากเสียงกันทางโซเชียลกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีนายต๊ะ เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ตน โดยอาศัยจังหวะก่อเหตุในวันเกิดของนายผู้เสียหาย ที่บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหาย ภายในหมู่บ้านจัดสรร แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ อาศัยจังหวะที่ไม้กั้นทางออกหมู่บ้านเปิดขึ้นตนและนายต๊ะ จึงขับขี่ซ้อนรถจักรยานต์เข้าไปก่อเหตุ และรีบหลบหนี หลังเกิดเหตุทราบว่าคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ ตนและนายต๊ะ ได้แยกย้ายกันหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายพิสิษฐ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และได้ประสานแจ้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สน.หนองแขม ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.602/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน เป็นที่เรียบร้อยในคราวเดียวกัน
.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า โซเชียลมีเดียช่วยย่อโลกให้เล็กลง ติดต่อกันง่าย ใกล้ชิดกันมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ไว โดยกลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากวุฒิภาวะ การใช้อารมณ์ บางครั้งทำให้ต้องลงเอยกับปัญหาความบาดหมาง ความขัดแย้ง ทะเลาะกัน ท้าทายกันในโซเชียล อวดว่าตนเองเก่ง ตัวข้าแน่กว่า นำไปสู่การใช้ความรุนแรง จนทำให้การบาดเจ็บ ล้มตายก็มี เสียทั้งเงินและอนาคต ถูกจับติดคุกหลายปี ฉะนั้นควรต้องรู้จักให้อภัย อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล การป้องกันที่ดีนั้น พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยการให้ความรัก ให้เวลา ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ปลูกฝังและวางรากฐานทางคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก มีสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว