สืบนครบาล รวบ บัญชีม้ามิจฉาชีพหลอกให้ทำงานออนไลน์ได้ค่าคอมมิชชั่น แรกๆถอนเงินได้จริง สุดท้ายบอกให้โอนค่าภาษีถอนคืนไม่ได้สูญเงินกว่า 3 แสน
สืบนครบาล รวบ บัญชีม้ามิจฉาชีพหลอกให้ทำงานออนไลน์ได้ค่าคอมมิชชั่น แรกๆถอนเงินได้จริง สุดท้ายบอกให้โอนค่าภาษีถอนคืนไม่ได้สูญเงินกว่า 3 แสน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 4 ได้จับกุมตัว
นางสาวพิมพ์พิศา อายุ 20 ปี
ที่อยู่ 41 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5243/2567 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุม
บริเวณหน้าบ้าน ม.3 ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม
.
พฤติการณ์ ผู้เสียหายถูกคนร้ายใช้บัญชี Facebook ปลอมชักชวนให้มาทำงานหารายได้เสริมโดยเป็นงานในการโฆษณาสินค้าออนไลน์รายได้ดีและทำงานสะดวก ทำได้ทุกที่ ซึ่งเป็นการทำงานผ่านแพลตฟอร์มชื่อว่า THAILUCKY ผู้เสียหายสนใจ จึงได้ลงทะเบียนตามแพลตฟอร์มที่คนร้ายส่งมาให้และคนร้ายได้ส่งบัญชี LINE ของติวเตอร์มาให้ยังผู้เสียหายเพื่อติดต่อสอบถามข้อมูล หลังจากนั้นผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังบัญชี LINE ของติวเตอร์เพื่อขอคำแนะนำวิธีการทำงานเบื้องต้น จนกระทั่งได้มีการโอนเงินเข้าไปเพื่อการส่งเสริมยอดขายให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ และจะได้ค่าคอมมิชชั่นตอบแทนกลับมา ซึ่งในสองครั้งแรกผู้เสียหายสามารถถอนเงินได้จริง แต่หลังจากนั้นอีกแปดครั้งไม่สามารถถอนเงินได้โดย ทางแพลตฟอร์ม THAILUCKY แจ้งว่าจะต้องโอนเงินชำระค่าภาษีจำนวน 30% ของจำนวนเงินทั้งหมดในบัญชีที่ลงทะเบียนไว้ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินทั้งหมด 8 ครั้ง รวมเป็นเงิน 292,133 บาท ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าแฟนเก่าซึ่งเป็นนายหน้าจัดหาคนไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้ชักชวนและพาข้ามไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาถูกจ้างให้เปิดบัญชีจำนวนห้าบัญชีโดยได้ค่าจ้าง 10,000 บาท
จากนั้นได้ตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้ลงทุนทำภารกิจต่างๆ โดยจะใช้วิธีการ ทักมาหาชวนทำภารกิจแล้วจะได้ค่าตอบแทน เมื่อเหยื่อหลงกลก็ชวนลงทุนโดยอ้างว่าจะได้กำไรมากกว่าทำภารกิจ และชักชวนลงทุนโดยโฆษณาว่าได้รับผลตอบแทนสูง หลอกให้สมัครลิงค์ในโปรแกรม เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการโอนเงินผ่านระบบลิงค์ หลอกเหยื่อลงทุนและให้กำไร เพื่อให้เหยื่อหลงกล อ้างว่าเหยื่อทำผิดระเบียบขั้นตอน จึงไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อเสียภาษีและค่าธรรมเนียม เมื่อเหยือขอเงินต้นคืนจะอ้างเรื่องรอเสียภาษี และค่าธรรมเนียม และได้พยายามโน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มอีก รู้ตัวอีกทีเสียเงินให้มิจฉาชีพไปแล้ว ฉะนั้น อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจลงทุน หากมีความสนใจควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ตรวจสอบก่อนลงทุน โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นบริษัทที่มีตัวตนจริงและไม่มีเจตนาหลอกลวง แต่หากหลงกลมิจฉาชีพไปแล้ว ให้รีบโทรแจ้งศูนย์AOC 1441