สพฐ.ตร.เตรียม MOU กับ GIT เพื่อร่วมกันพัฒนาการตรวจพิสูจน์โลหะมีค่า อัญมณี และเครื่องประดับ ลดการถูกหลอกลวง พร้อมเปิด App CSI เสริมการตรวจที่เกิดเหตุ
สพฐ.ตร.เตรียม MOU กับ GIT เพื่อร่วมกันพัฒนาการตรวจพิสูจน์โลหะมีค่า อัญมณี และเครื่องประดับ ลดการถูกหลอกลวง พร้อมเปิด App CSI เสริมการตรวจที่เกิดเหตุ
วันนี้ (7 พ.ย.67) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) เป็นประธานแถลงข่าวการหารือเพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนาวิธีการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ระหว่าง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT โดยมี นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันฯ นายทนง ลีลาวัฒนสุข รองผู้อำนวยการ (เทคนิค) และคณะทำงาน พล.ต.ต.ทนงค์ ทองประดับเพชร ที่ปรึกษา (สบ7) สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) พล.ต.ต.กัลป์ ทังสุพานิช ผู้บังคับการสถาบันฝึกอบรมและวิจัยการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สฝจ.) และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม กคม.พฐก. ชั้น 5 อาคาร 9 ชั้น กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (สวนพลู)
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ฯ กล่าวว่า ภายหลังมีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเกี่ยวกับทองคำในหลายข้อหา โดยเฉพาะข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองหรือผู้อื่น ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายจำนวนมาก อีกทั้งในปัจจุบันในการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนจะถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ จึงหารือกับทาง GIT อย่างใกล้ชิด โดยในอนาคตจะจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) เพื่อดำเนินนโยบายความร่วมมือทางด้านวิจัยและพัฒนาทางด้านการตรวจพิสูจน์โลหะมีค่า อัญมณี และเครื่องประดับ เพื่อพัฒนาด้านบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ส่งเสริมการให้บริการทดสอบ วิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ สนับสนุนเครื่องมือ และร่วมการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจในการตรวจพิสูจน์โลหะมีค่า อัญมณี และเครื่องประดับ ณ ห้องปฏิบัติการชั้น 6 ของกลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์(กคม.) กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (สวนพลู) เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้ตำรวจ ทั่วประเทศปรับการบริการและพัฒนางานสถานีตำรวจ พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน อีกทั้ง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คือ “เป็นตำรวจมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ประชาชน”
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ยกระดับการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ได้แก่ Application CSI ซึ่งถูกพัฒนาขึ้น เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตรวจเกิดเหตุ ใช้บันทึกข้อมูลการตรวจพิสูจน์แทนการบันทึกด้วยกระดาษ ซึ่งมีข้อดีดังนี้
1. Application CSI รองรับฟังก์ชันการพิมพ์ และฟังก์ชันการแปลงเสียงพูดเป็นข้อความได้สะดวกและรวดเร็ว ทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุสะดวกมากยิ่งขึ้น
2. สามารถกำหนดพิกัดที่เกิดเหตุ ผ่านละติจูดและลองจิจูด ได้อัตโนมัติ ทำได้ถูกต้องและรวดเร็ว โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมืออื่นๆประกอบ
3. มีฟังก์ชั่นการส่งและมอบวัตถุพยาน โดยกำหนดให้มีลายเซ็นดิจิตอลไว้ในระบบ ทำให้การส่งมอบวัตถุพยานได้ถูกต้องและรวดเร็ว
4. สามารถนำออกข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบ แปลงเป็นไฟล์เอกสารที่มีเนื้อหาถูกต้องแบบอัตโนมัติ ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน
5. สามารถบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์โดยอัตโนมัติทั่วประเทศ ทำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถติดตามคดีสำคัญต่างๆได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุด ระบบดังกล่าวยังช่วยติดตามผลการตรวจพิสูจน์ การสังเคราะห์ผลตรวจพิสูจน์ หรือข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ได้ทั้งประเทศ