27/10/2024

สืบนครบาล รวบ บัญชีม้าขบวนการหลอกชักชวนเทรดหุ้นฮ่องกง แรกๆได้ผลตอบแทน แต่พอลงเงินเยอะขึ้นอ้างว่าต้องจ่ายค่ากองทุนและภาษี

สืบนครบาล รวบ บัญชีม้าขบวนการหลอกชักชวนเทรดหุ้นฮ่องกง แรกๆได้ผลตอบแทน แต่พอลงเงินเยอะขึ้นอ้างว่าต้องจ่ายค่ากองทุนและภาษี

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว

นายเมธชัยเกียรติ  อายุ 29 ปีที่อยู่เลขที่ 652/44 แขวงคลองกุ่ม เขต บึงกุ่ม กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1250/2567 ลงวันที่ 13 กันยายน 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอรลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยมิได้กระทำแก่ประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
.
จับกุม ริมถนนสายท่าเสา-หนองดง ม.2 ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จว.พิจิตร
.
จากการตรวจสอบยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย คือ หมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.157/2566 ลงวันที่ – มีนาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ”
.
พฤติการณ์ เมื่อประมาณวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ผู้กล่าวหาพบเห็นโฆษณาในเฟซบุ๊กซึ่งเป็นสาธารณะชักชวนให้มาศึกษาและลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น ที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทชื่อ “Paiboon ห้องอบรมหุ้น068” ผู้กล่าวหาสนใจจึงได้เพิ่มเพื่อนและเข้าไปอ่านข้อมูลในห้องไลน์โอเพนแชทดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ตัดสินใจลงทุนเทรดหุ้นฮ่องกงเป็นคร้ังแรก ด้วยจํานวนเงิน 3,000 บาท โดยได้ทําการโอนเงินออนไลน์จากแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย ของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชี ชื่อบัญชี นายเมธชัยเกียรติ และในวันเดียวกันเวลา ผู้กล่าวหาได้รับเงินลงทุนพร้อมกําไรยอดจํานวน 3,245 บาท คืนเข้ามายังบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ด้วยเงินลงทุนก้อนแรกและผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งขั้นตอนการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว ทําให้ผู้กล่าวหา เชื่อมั่นและวางใจในการลงทุนที่กลุ่มไลน์โอเพนแชทดังกล่าว จึงได้ลงเงินทุนเพิ่มขึ้นอีกคือยอด 15,000 บาท เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีชื่อนางสาวดวงนภา และครั้งสุดท้ายด้วยยอด 15,000 บาท เมื่อวันท่ี 25 มกราคม 2567 โดยผู้กล่าวหาได้โอนเงินจากบัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา ไปยังบัญชีออมสิน ชื่อนายทวีศักดิ์ ด้วยความหวังที่จะทํากําไรจากการเทรดหุ้นฮ่องกงกับกลุ่มไลน์โอเพนแชทนี้
.
แต่เมื่อการเทรดหุ้นจบลงในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ทําการถอนเงินพร้อมกําไรออกจากบัญชีในแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเทรดหุ้น ฮ่องกงมาสู่บัญชีกรุงไทยของผู้กล่าวหา แต่เงินไม่เข้า ผู้กล่าวหาจึงถามไปยังผู้ประสานงานหรือฝ่ายบริการ และได้รับแจ้งว่าจะต้องจ่ายค่ากองทุนการกุศลและภาษีหุ้นฮ่องกงก่อนจึงจะสามารถถอนเงินออกจากพอร์ตการลงทุนได้ ผู้กล่าวหาได้ตอบกลับไปว่าผู้กล่าวหายินดีจะจ่ายภาษีหุ้นฮ่องกงอยู่แล้วโดยจะทําการเข้าระบบและโอนจากบัญชีเทรดไปยังบัญชีกองทุนและภาษี แต่ผู้ประสานงานบอกว่า ต้องจ่ายเข้าไปที่บัญชีทหารไทยธนชาต ชื่อนายอิทธิวัฒน์ ผู้กล่าวหา จึงเริ่มสงสัยในพฤติกรรมหรือขั้นตอนอันไม่ชอบมาพากลนี้ จึงเชื่อว่าตัวเองโดนหลอกให้ลงทุนออนไลน์ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายจนถึงที่สุด
.
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อกลางปี 2566 ตนเองได้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับเพื่อนใช้ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเพื่อนอ้างว่าไม่ผิดกฎหมาย จึงยินยอมไปเปิดบัญชีธนาคารให้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเนื่องจากเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทตน มาทราบอีกทีก็พบว่ามีหมายจับ จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนผู้ที่อยากลงทุนและประชาชน อย่าหลงเชื่อเพจปลอมหรือกลุ่มโซเชียลต่างๆ หลอกลวงให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน อ้างว่าได้ผลกำไรเยอะ แรกลงทุนจะได้รับเงินตอบ แต่เมื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะถอนเงินคืนไม่ได้ อ้างสารพัด สุดท้ายก็สูญเงิน ดังนั้น หากเพจ Facebook หรือ Line หรือ สื่อโซเชียลมีเดียใด ๆ ที่มีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ภาพผู้บริหาร และพนักงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ชักชวนให้ลงทุน หรือ รับข้อมูลลงทุน ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นการหลอกลวงโดยมิจฉาชีพสุดท้ายหากท่านตกเป็นเหยื่อ ให้รีบโทรแจ้งศูนย์AOC 1441 ทันที

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป