22/12/2024

เชียงใหม่-เปิดตัวเทศกาลโกโก้ จัดงาน” Northern Thailand Cocoa Festival 2024 “

S__92880907_0

‘รัฐ เอกชน ผนึกกำลังเครือข่ายโกโก้ภาคเหนือ เปิดตัวเทศกาลโกโก้ จัดงาน Northern Thailand Cocoa Festival 2024 (NTCF 2024) หนุนเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว กระตุ้นมูลค่าสินค้า รองรับฐานอุตสาหกรรม BCG’

เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับเครือข่ายโกโก้ภาคเหนือ และบริษัท ดีเซ็นทริค จำกัด และศูนย์การค้ามีโชค พลาซ่า จัดงาน ‘Northern Thailand Cocoa Festival 2024 (NTCF 2024)’กิจกรรมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงพืชเศรษฐกิจสู่แนวทาง BCG Model (BCG Network) ภายใต้โครงการการยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาแนวความคิด ต่อยอดนวัตกรรม ผสานการใช้ประโยชน์ด้านทรัพยากร ข้อมูล พัฒนาบุคลากรร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการภายในกลุ่มและหน่วยงานหรือสถาบันต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อแสดงถึงศักยภาพของเครือข่ายผู้ประกอบการโกโก้ภาคเหนือ ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ได้ผลักดันให้เกิดการพัฒนาเครือข่ายและเชื่อมโยงผู้ประกอบการโกโก้ภาคเหนือตลอดห่วงโซ่คุณค่าสู่แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามแนวคิด BCG โดยมีนายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ ลานอเนกประสงค์ มีโชค พลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่

นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจจากการผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ทว่าประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในการผลิตสินค้าและบริการของประเทศยังอยู่ในระดับที่ต่ำ มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองและไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดการภาวะโลกร้อนยังคงเป็นความท้าทายต่อภาคการผลิตของไทย อาทิ การประกาศใช้มาตรการ Thailand Taxonomy เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ และมาตรการ CBAM การปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรปที่ผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้านำเข้าต้องมีการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากสภาพปัญหา โอกาส และความท้าทายดังกล่าว ทำให้รัฐบาลเร่งปรับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่โมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่เรียกว่า “BCG Model”

 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงมุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริม SMEs ให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการที่มีความเป็นเลิศและยั่งยืนสู่สากล โดยส่งเสริมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงพืชเศรษฐกิจ สู่แนวทาง BCG Model เพื่อสร้างความเข้มแข็งกลุ่มผู้ประกอบการโกโก้ภาคเหนือตลอดห่วงโซ่คุณค่าให้สามารถพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันได้ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผสานการใช้ประโยชน์ด้านทรัพยากร ข้อมูล และพัฒนาบุคลากรร่วมกัน อันจะมีส่วนช่วยสนับสนุนและช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน และเป็นกลไกสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจในการลงทุนในด้านเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) จนเกิดเป็นงานครั้งนี้ขึ้น

 

นายสุรพล กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดงาน ‘Northern Thailand Cocoa Festival 2024 (NTCF 2024)’ ได้รวบรวมกิจกรรมมากมายมาไว้ในงาน อาทิ การออกบูธจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการเครือข่ายโกโก้ภาคเหนือที่เข้าร่วมโครงการ โซนนิทรรศการ Cacao Journey ที่จัดแสดงขั้นตอนการผลิตและแปรรูปโกโก้ตั้งแต่กระบวนการปลูกจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ เวทีเสวนา ศักยภาพ โอกาส โกโก้และช็อกโกแลตภาคเหนือ การสาธิตการทำขนมจากช็อกโกแลต เครื่องดื่มค็อกเทลจากโกโก้ กิจกรรม Cacao Ceremony และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด กิจกรรมโปรโมชั่น และกิจกรรมนาทีทอง

 

ผลจากการจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าผู้บริโภคจะสามารถรับทราบข้อมูล ข่าวสาร องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับโกโก้ภาคเหนือแล้ว ยังเป็นการสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของผู้ปลูก ผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โกโก้ภาคเหนือ ว่ามีคุณภาพเทียบเท่าสากล เป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่จะนำผลิตภัณฑ์โกโก้ไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ หรือภาคการค้าการผลิตรายย่อย ที่มีความต้องการนำโกโก้ไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม และอื่นๆ รวมถึงภาคประชาชนที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากโกโก้และช็อกโกแลต ก็สามารถเข้าเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากโกโก้ในเทศกาลนี้ได้ ภายหลังจบงาน คาดว่าจะเกิดการกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ให้มีมูลค่าเพิ่มกว่า 1.5 ล้านบาท

นภาพร/เชียงใหม่