ประธานวุฒิสภาให้การรับรองเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ในโอกาสหารือข้อราชการ
ประธานวุฒิสภาให้การรับรองเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ในโอกาสหารือข้อราชการ
วันที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ (H.E. Ms. Angela Jane Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ในโอกาสแสดงความยินดีที่เข้ารับตำแหน่งประธานวุฒิสภา และหารือข้อราชการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย โดยมี นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย และนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยนางสาวแก้วเกศร์ ถาวรพันธ์ ที่ปรึกษาด้านระบบงานนิติบัญญัติ ร่วมให้การรับรอง
.
ประธานวุฒิสภา กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียที่มีความใกล้ชิดและแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ในปี พ.ศ. 2495 และได้ยกระดับความสัมพันธ์โดยมีแผนปฏิบัติการร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2565 – 2568 รวมถึงมีความร่วมมือกันในระดับทวิภาคีหลายมิติ สำหรับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติมีกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ความร่วมมือในระดับพหุภาคี ทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาท้าท้ายร่วมกันในการกรอบการประชุมสหภาพรัฐสภา (IPU) สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ออสเตรเลียเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยและอาเซียน โดยปีนี้นับเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่าไทยและออสเตรเลียจะขยายความร่วมมือที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สมาชิกวุฒิสภาได้แลกเปลี่ยนในประเด็นความร่วมมือและแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างไทยกับออสเตรเลียในการพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้สอดรับกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย รวมถึงการพิจารณาอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตรา (Visa) ให้แก่นักเรียนและนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณประธานวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาที่ให้การต้อนรับ รวมถึงชื่นชมความหลากหลายของสมาชิกวุฒิสภาที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคมที่สามารถสะท้อนความเป็นอยู่ของประชาชน
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างบทบาทในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงผ่านความร่วมมือด้านความมั่นคง พลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการน้ำ ที่ผ่านมามีโครงการศึกษาดูงานและการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน การจัดเก็บแบตเตอรี่ และการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้จะมีบริษัทออสเตรเลียกว่า 25 บริษัท มาร่วมงานสัมมนาด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียวในไทย เอกอัครราชทูตฯ กล่าวชื่นชมความร่วมมือด้านการพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีหลักสูตรต่อเนื่องโดยเรียนที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นระยะเวลา 3 ปี และไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลียจนสำเร็จการศึกษา สำหรับประเด็นการอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตรา เอกอัครราชทูตฯ จะนำข้อคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
.
นอกจากนี้ ผู้ช่วยทูตทหารกล่าวชื่นความร่วมมือทางการทหารระหว่างไทยกับออสเตรเลียที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันออสเตรเลียมีโครงการให้นักศึกษาไทยเดินทางไปฝึกอบรมด้านการทหารทั้งสามเหล่าทัพ ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระดับรัฐสภาของทั้งสองประเทศและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตทั้งสองประเทศจะมีการแลกเปลี่ยนด้านนิติบัญญัติในมิติต่าง ๆ มากขึ้น และยินดีที่จะให้การสนับสนุนในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับออสเตรเลียให้มั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป