20/09/2024

เชียงใหม่ – มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รอบที่ 2

เชียงใหม่ – มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รอบที่ 2 หลังได้รับการประสานร้องขอความช่วยเหลือ ในหลายพื้นที่ของจังหวัดแพร่และสุโขทัย

นายภาณุพงศ์ ชมภู หัวหน้าจุด ประจำเขตรับผิดชอบจังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องด้วยทางมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการประสานร้องขอความช่วยเหลือจาก ผู้ประสบเหตุอุทกภัย(น้ำท่วม) จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ในหลายจังหวัดของทางภาคเหนือ โดยเฉพาะมวลน้ำจากลำน้ำแม่ยม ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอลอง ,อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และเขตจังหวัดสุโขทัย ทำให้ประชาชนขาดแคลนน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร รวมทั้งยารักษาโรค ผ้าอ้อมเด็ก-ผู้ใหญ่แบบสำเร็จรูป(แพมเพิส) แผ่นอนามัยสำหรับสตรี(มีรอบเดือน)

ทางมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเปิดรับบริจาค น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร รวมทั้งยารักษาโรค ผ้าอ้อมเด็ก-ผู้ใหญ่แบบสำเร็จรูป(แพมเพิส) แผ่นอนามัยสำหรับสตรี(มีรอบเดือน) ต่อเนื่อง รอบที่ 2 เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือให้ถึงผู้ประสบภัยฯในพื้นที่ตามลำดับต่อไป

สามารถมาบริจาคสิ่งของได้ที่ ศูนย์มูลนิธิพุทไธสวรรย์เชียงใหม่ เลขที่ 92/4 หมู่ที่ 9 บ้านป่าสัก ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ หรือร่วมสมทบทุนซื้อ น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร รวมทั้งยารักษาโรค ผ้าอ้อมเด็ก-ผู้ใหญ่แบบสำเร็จรูป(แพมเพิส) แผ่นอนามัยสำหรับสตรี(มีรอบเดือน) ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาสันป่าตอง เลขบัญชี 182-857300-0 ชื่อบัญชี นายภาณุพงศ์ ชมภู, นายสุเมฆ ตุ้ยสุวรรย์ และ นายปรีชา เตียววิจิตรสีใส หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ ข้อความทาง Facebook Messenger มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จังหวัดเชียงใหม่ หรือโทรศัพท์หมายเลข 091-478-0233 และ 098-159-4592

นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯ มีความจำเป็นต้องการเรือเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ในหลายหมู่บ้านของตำบลสบสาย และ ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ปรากฏว่าไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ ต้องใช้เรือของส่วนราชการเข้าไป อาสาสมัครฯไม่สามารถเดินเท้า ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร ต้องลอยคอนำสิ่งของเข้าไปแทน ทำให้การช่วยเหลือไม่สะดวกและอาจล่าช้า สำหรับหน่วยงานใดที่มีเรือ ทางมูลนิธิฯจึงขอรับการสนับสนุน เพื่อให้ภาระกิจของทางมูลนิธิฯสำเร็จราบรื่นไปด้วยดี และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯและของผู้ใจบุญต่อไป..นายภาณุพงศ์ฯ กล่าวในที่สุด

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 10:00 นาฬิกา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) โดยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ระหว่างวันที่ 16 – 25 สิงหาคม 2567 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ เพชรบูรณ์ อุดรธานี ระยอง ภูเก็ต ยะลา และ จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 64 อำเภอ 260 ตำบล 1,459 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,807 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย โดย

ปัจจุบัน(ข้อมูล ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และ จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 37 อำเภอ 156 ตำบล 940 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,824 ครัวเรือน..

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป