บุรีรัมย์ วงจรปิดชัดโจรใจเย็นงัดตู้บริจาควัดกลางวันแสก แสก ตร ตามล่า

อำเภอหนองกี่//คนร้ายบุกเดี่ยวเข้าศาลาวัดกลางวันแสกๆ แปโล่งๆไม่มีใครอยู่ เดินเลือกค้นหาทรัพย์สินภายในศาลาอย่างใจเย็น เจอตู้รับบริจาคงัดได้เงินสดไปกว่าหมื่นบาท เจ้าอาวาสเผยปีนี้เป็นครั้งที่ 3 โจรเยอะเพราะคนไม่อยากทำงาน และทำงานไม่เป็นขโมยง่ายกว่า เห็นหน้าชัดตำรวจจับไม่ได้”ไม่รู้จะว่ายังไง”

วันที่ 20 ส.ค.67 วัดป่าอุดมธรรม ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้โพสต์ภาพคนร้ายที่เข้ามางัดเอาตู้บริจาคของวัดไป เขียนระบุข้อความว่า”ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้วัดวากันหน่อย คุณโยมวัดป่าอุดมธรรมโดนขโมยมือดีงัดตคู้บริจาคไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟวัดอีกแล้วเด้อ กลางวันแสกๆเลยไม่เกรงกลัวต่อบาป ใครมีข้อมูลบุคคลในรูปภาพนี้แจ้งมาที่วัดได้นะคุณโยมสาธุๆ”

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบพระอธิการวินัย จารุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าอุดมธรรม หมู่ที่ 8 บ้านกระสัง ต.บุกระสัง อ.หนองกี่ เล่าว่า เหตุดังกล่าวตามเวลาจากกล้องวงจรปิดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค.เวลาประมาณ 10.45 น.

มีชายสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น สวมหมวกแก๊ป เดินมาจากทางด้านหลังของวัด แล้วเข้าไปในศาลา ช่วงนั้นพระเณรกำลังทำความสะอาดรอบวัด มีคนงานก่อสร้างมาทำงานอีกมุมหนึ่ง จึงไม่มีใครอยู่ในศาลา

คนร้ายได้เข้าไปเดินค้นหาทรัพย์สินภายในศาลาอย่างใจเย็น จนกระทั่งไปเจอตู้รับบริจาคซึ่งทำด้วยไม้ คนร้ายใช้วิธีล้มตู้บริจาคแล้วเอาตั้งขึ้นไปกระทืบเพื่อให้ตู้แตก แล้วเอาเงินสดภายในตู้ซึ่งมีประมาณ 15,000 บาท แต่คนร้ายเอาไปไม่หมดเพราะยังเหลือเงินเหรียญอีกกว่า 4,000 บาท คาดว่าคงจะหนัก เพราะคนร้ายไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรมาเลย เห็นเอาเงินซึ่งเป็นแบงค์ปลีก ห่อเสื้อคนร้ายไป

พระอธิการวินัย กล่าวด้วยว่าเฉพาะปีนี้มีคนร้ายเข้ามางัดวัดถ้ารวมกับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และคาดว่าน่าจะเป็นคนไม่ไกลจากนี้เพราะน่าจะเดินมา ที่ผ่านมาทางวัดพยายามหาแนวทางป้องกัน ครั้งที่ 1 และ 2 ที่โดนงัดกุฎิ วัดไม่มีกล้องวงจรปิดรตำรวจบอก”ไม่มีหลักฐาน” หลังจากนั้นได้เอากล้องวงจรปิดมาติด พร้อมกับขึ้นป้ายไว้ว่า CCTV แต่คนร้ายไม่สนใจหรืออาจจะอ่านแล้วไม่เข้าใจจึงเดินเหมือนบ้านตัวเองแล้วตามค้นหาทรัพย์สินภายในศาลาอย่างใจเย็น

เจ้าอาวาสวัด บอกอีกว่าส่วนตัวคิดว่าปัจจุบันคนไม่ค่อยมีงานทำ หรือไม่อยากทำงานเพราะกว่าจะได้ค่าจ้างวันละ 300 บาทต้องทำงานทั้งวัน คนร้ายอาจจะคิดว่าขโมยได้เงินไวกว่าการทำงาน จึงอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะครั้งนี้มีวงจรปิดชัด”ถ้าจับไม่ได้ไม่รู้จะว่ายังไง”////////////

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง
ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน