14/11/2024

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ย้ำขับขี่ประมาทหวาดเสียว ยกล้อ นอนหมอบ มีโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างคดี “4 กรณีสายแว้น” ศาลสั่งทั้งจำทั้งปรับ-ริบรถของกลาง

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ย้ำขับขี่ประมาทหวาดเสียว ยกล้อ นอนหมอบ มีโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างคดี “4 กรณีสายแว้น” ศาลสั่งทั้งจำทั้งปรับ-ริบรถของกลาง

วันนี้ (11 ส.ค.67) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้มีนโยบายกวดขันวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียที่เกิดจากความประมาท ละเลยกฎจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด

ตัวอย่างอุทาหรณ์ 4 เหตุการณ์ล่าสุด กรณีที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรากฎคลิปจากเพจ “เฮียขับรถ” ซึ่งเป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ขับขี่ในลักษณะประมาทน่าหวาดเสียว คณะทำงานจึงได้บูรณาการร่วมกับ บก.น.7 โดยมี พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล รอง ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามนำตัวหนึ่งในผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวส่งฟ้องศาลในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ ,ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ต่อมาศาลพิพากษา จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,500 บาท โทษจำคุกรอ 2 ปี รายงานตัว 4 ครั้ง ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ 20 ชั่วโมง

กรณีที่ 2 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรากฏภาพบนโซเชียลมิเดียโพสต์คลิป ชายขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะส่ายไปมา-นอนขับ-ยืนขับ พร้อมทั้งโชว์บั้นท้าย คณะทำงานฯ จึงได้มีการประสานข้อมูลบูรณาการร่วมกับ ภ.จว.สุรินทร์ โดยมี พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และ พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ท้องที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามนำตัวผู้ก่อเหตุ มารับทราบกล่าวหาและนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหา “ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง

กรณีที่ 3 เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรากฎคลิปภาพเยาวชนอายุ 14-16 ปี จำนวน 8 ราย ได้ขับรถมาจอดรอบริเวณสี่แยกไฟแดง แล้วมีการเบิ้ลเครื่องส่งเสียงดัง-ยกล้อและจอดรถมายืนชูมือกลางถนน ท่ามกลางฝนตกหนัก คณะทำงานจึงได้บูรณาการร่วมกันกับ ภ.จว.ขอนแก่น โดยมี พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ท้องที่ที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามนำตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา โดยชุดสืบสวนได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 4 คันไว้เป็นของกลาง พาชายเยาวชนทั้ง 8 คนเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานขับรถโดยประมาทน่าหวาดเสียวฯ ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ ,ก่อให้เกิดเสียงดังเดือดร้อนรำคาญในถนนสาธารณะ ,ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ,และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน”และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

และกรณีสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรากฎคลิปภาพรถจักรยานยนต์ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียล คณะทำงานจึงได้บูรณาการร่วมกับ บก.น.8 โดย พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ ท้องที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามนำตัวผู้ก่อเหตุ มารับทราบกล่าวหาและนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหา “ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวฯ, ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ” ศาลมีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 1 เดือน ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ ย้ำว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวดในกรณีขับขี่ในลักษณะนี้ คือการนอนหมอบขับขี่-ยกล้อ-เบิ้ลเครื่องส่งเสียงดัง ล้วนเป็นการขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น เป็นอันตรายและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นอย่างมาก และศาลมีแนวทางคำพิพากษาลงโทษหนัก ทั้งผู้ขับขี่และเจ้าของรถ ทั้งนี้ ยังได้ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมทั้งการรวมตัวกันบนท้องถนนที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป