20/09/2024

สืบนครบาล รวบ “ไอแขก พ่อบังเกิดเกล้า” แอบล่วงละเมิดลูกในไส้ หนำซ้ำยังเผยแพร่คลิปไปให้คนอื่นดู อ้างว่าเกิดความหึงหวง .

สืบนครบาล รวบ “ไอแขก พ่อบังเกิดเกล้า” แอบล่วงละเมิดลูกในไส้ หนำซ้ำยังเผยแพร่คลิปไปให้คนอื่นดู อ้างว่าเกิดความหึงหวง
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสังคม โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีคนร้ายชื่อ นายสรณคมฯ ได้ก่อเหตุบังคับล่วงละเมิดกับลูกตัวเอง และยังถ่ายคลิปเก็บไว้ หนำซ้ำยังส่งคลิปไปให้ผู้อื่นดู เพราะเกิดความหึงหวง สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย
.
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3ฯ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รับทราบ จากนั้นจึงได้กำชับให้ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา , ส.ต.อ.ภาสกร บัวอ่วม ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว

นายสรณคม หรือแขก สงวนนามสกุล อายุ 36 บุคคลตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1042/2567 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”
.
สถานที่จับกุม บริเวณห้องเช่า ซอยสุวินทวงศ 13 แยก 19 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
.
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน (อาศัยอยู่ด้วยกัน 10 คน)
เหลือเพียงเด็กผู้เสียหายและนายสรณคมฯ นายสรณคมฯ ได้เรียกเด็กผู้เสียหายเข้ามาในห้องซึ่งอยู่ชั้น 1
นายสรณคมฯ ได้ล็อคห้องและชวนเด็กผู้เสียหาย คุย จากนั้นนายสรณคมฯได้ใช้มือจับหน้าอกและล่วงเกินเด็กผู้เสียหาย เด็กผู้เสียหายพยายามขัดขืน แต่สู้แรงของนายสรณคมฯ ไม่ได้ เด็กผู้เสียหายได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ของป้า เด็กผู้เสียหายจึงสะบัดตัวหนีและวิ่งออกจากห้องไปบอกกับป้า จากนั้นป้าจึงไปบอกกับนายสรณคมฯว่าไม่ให้มายุ่งกับเด็กอีก
ต่อมาวันที่ 14 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 20.00 น. นายสรณคมฯก็ขึ้นมามาที่ห้องของเด็กผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ชั้น 2 และชวนเด็กผู้เสียหาย จากนั้นเด็กผู้เสียหาย จึงเผลอหลับไป หลังจากที่เด็กผู้เสียหาย ตื่นขึ้นมา พบว่าถูกถอดเสื้อผ้าและรู้สึกเจ็บที่อวัยวะ ผู้กล่าวหาได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด
.
หลังจากการจับกุม นายสรณคมฯ ให้การว่าตนมีอะไรกับเด็กผู้เสียหายจริง อ้างว่ามีความรักต่อเด็ก และมีความสัมพันธ์กันประมาณ 1- 2 ปี เริ่มต้นเดิมทีเด็กผู้เสียหายเป็นลูกติดจากภรรยาเก่า และปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกของตน ตนเพียงแค่รับเป็นพ่อเท่านั้นเพราะตนเชื่อว่าภรรยา(แม่ของผู้เสียหาย)ไปท้องกับคนอื่น ต่อมาตนได้เลิกรากัน และได้มีภรรยาใหม่มีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อลูกสาวคนเล็กกับภรรยาใหม่อายุได้ 2 ขวบ ได้รับเด็กผู้เสียหายมาอยู่กับครอบครัวใหม่เพื่อให้มาช่วยเลี้ยงลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ เมื่ออยู่ด้วยกันได้แอบคบหากันมาจนบัดนั้นเป็นต้นมาโดยที่ภรรยาใหม่ไม่รู้
.
จากการซักถามผู้ต้องหาให้การวกวนพบพิรุธหลายประการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตัวผู้ต้องหา พบคลิปวีดีโอขณะล่วงเกินจำนวนหลายคลิป และมีลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ปรากฎในวีดีโอคลิปด้วย ,ภาพและวิดีโอโป๊เปลือยจำนวนมาก เป็นต้น
และยังพบการส่งวิดีโอคลิปให้กับบุคคลอื่นในช่องทาง แชทเฟซบุ๊คอีกด้วย จากการซักถามพบว่า จับได้ว่าเด็กผู้เสียหาย เริ่มคบหาเพื่อนชายในวัยเดียวกัน ตนได้แอบดูแชทเฟซบุ๊คระหว่างเด็กผู้เสียหายและเพื่อนชายของเ จึงเกิดความโมโห จึงส่งภาพและคลิปวีดีโอให้เพื่อนชายคนดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ต่อมาภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบวีดีโอคลิปขณะที่ผู้ต้องหาบังคับให้เด็กผู้เสียหายขอโทษและกราบเท้าตน
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งจากมารดาของเด็กผู้เสียหายว่า ตนได้เลิกรากับผู้ต้องหามาหลายปี ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะทำกับลูกสาวตนได้ถึงเพียงนี้ เพราะลูกสาวไม่เคยบอกตนเลยแม้แต่สักครั้งจนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นตนเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมด และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อมา และยินดีที่จะตรวจ DNA ด้วย เพราะตนไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ตัวผู้ต้องหากล่าว และยังบอกว่าตัวผู้ต้องหามักจะเป็นคนดื่มสุราเป็นอาจินและชอบโกหกอยู่เสมอ ตนจึงตัดสินใจเลิกลาแต่ครั้งนั้นมา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.หนองจอก ดำเนินคดีต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่ถือเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกิดกับคนใกล้ตัวในสถาบันครอบครัว สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย สิ่งหนึ่งที่คนรอบตัวควรจะให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความปลอดภัยก็คือ ต้องคอยเช็กคอยสังเกตอาการว่าเกิดอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของเด็กได้ ดังนี้ เด็กมีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำตามร่างกาย มีอาการหวาดกลัว ซึมเศร้า วิตกกังวล เก็บตัว ไม่ยอมออกไปพบปะเพื่อน หรือไม่สุงสิงกับใคร
มีความคิดอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง มีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย อาจหนีออกจากบ้าน หรือกลัวการกลับบ้านการเรียนแย่ลง หรือไม่สนใจการเรียน ความปลอดภัยเป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศเป็นการคุกคามทั้งทางร่างกาย และจิตใจ การดูแลเอาใจใส่บุตรหลานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เหตุการณ์อันเลวร้ายดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเอง

“มิดฟิลหัวจ่าย”

​“ฟ้าเล่นอะไรกับกู” เสียงตะโกนของผู้ต้องหาขณะที่ น.1 สั่งผู้การจ๋อนำทีมสืบนครบาลสืบ บก.น.1 สน.ดินแดง รวบอดีตนักฟุตบอลชื่อดัง สังกัดสโมสรไทยลีก ดีกรีอดีตแข้งเยาวชนทีมชาติ ตำแหน่งมิดฟิล ใช้เวลาว่างจากการฝึกซ้อม “ขนยาบิ๊กล็อต” ซึ่งจากการสืบสวนยืนยันว่าแข้งดังเคยลำเลียงยาเสพติดบิ๊กล็อตมาหลายครั้ง และเป็นหัวจ่ายกระจายยาเสพติดในย่านดินแดง โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งรัดให้มีการป้องกันปราบปรามการแพร่กระจายยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลโดยเฉพาะตามชุมชน หมู่บ้าน เจ้าตัวยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเสียดายอนาคตและความสามารถตนเอง และขอให้เรื่องราวในชีวิตของตนเป็นบทเรียนให้กับเยาวชนไทยที่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ดูตนเองเป็นบทเรียน”

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.กก.สส.บก.น.1 ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ท.อติชาติ แย้มผกา รอง ผกก.สส.บก.น.1 , พ.ต.ต.เอกยุทธ อดิสร สว.กก.สส.บก.น.1 , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วิทย์วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.ท.เลิศวริศเลิศวรปรีชา รอง สว.ฝทว.7 ทว. , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.1 และ ศอ.ปส.ตร. (ชุดที่ 5) ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว

นายเจษฎาภรณ์ หรือ ฟิล์ม อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.409/2567 ลงวันที่ 17 ก.ค. 67

ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน โดยร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

พฤติการณ์กล่าวคือ “รวบแข้งดัง” อดีตเยาวชนทีมชาติ-ขนยาบิ๊กล็อต สืบเนื่องจากห้วงเดือน พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุม “เซียนไก่ชน” รายหนึ่ง ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่หลังการรวบตัวได้ขยายผล ย้อนรอยจนไปจนพบกับยาเสพติดล็อตใหญ่ ได้แก่ ยาไอซ์ 26 กิโลกรัม , รวมเคตามีน 15 กิโลกรัมถูกเก็บไว้ในห้องเช่าย่านดินแดง กรุงเทพฯ กก.สส.บก.น.1 , ชุดสืบนครบาล และ ศอ.ปส.ตร. (ชุดที่ 5) จึงร่วมกันสืบสวนขยายผลที่มาของยาเสพติดล็อตนี้โดยละเอียดจนพบพยานหลักฐาน “หลายช่องทาง” ต่างชี้ชัดไปที่ฟิลึนักฟุตบอลชื่อดัง ซึ่งข้อมูลทางการสืบสวนยังชี้ชัดอีกว่าแข้งดังรายนี้ยังเป็น “นักบิน” กล่าวคือเป็นผู้ขับรถลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้มาจากละแวก จ.ปริมณฑล และไม่เพียงแต่ยาเสพติดล็อตนี้เท่านั้นแต่ยังเคยลำเลียงยาเสพติดลักษณะนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 มี่ผ่านมา โดยในปัจจุบันแข้งดังรายนี้ยังคงเป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่ โดยสังกัดอยู่ในสโมสรชื่อดัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. รวบรวมพยานหลักฐานอย่าง “หนาแน่น” กระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับแข้งดังรายนี้ ก่อนสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุด สืบนครบาล , กก.สส.บก.น.1 และ ศอ.ปส.ตร. (ชุดที่ 5) ติดตามจับกุมตัว และซึ่งต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าแข้งดังปรากฏตัวที่วัดแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา แล้วเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าเจ้าตัวกำลังจัดงานศพให้กับลูกสาวของตัวเองที่พึ่งจะเสียชีวิตในวัย 9 เดือน แม้หน้าที่จะต้องจับกุม แต่ไม่ลืมมนุษย์ธรรม พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้สั่งกำลังเจ้าหน้าที่ล้อมรอบบริเวณศาลาและเมรุเผาศพไว้ก่อน และเมื่อเสร็จสิ้นพิธีการเผาศพแล้วจึงได้นำกำลังเข้าไปควบคุมตัว นายเจษฎาภรณ์ หรือฟิล์ม แต่ก็สุดดราม่าจนต้องตะโกนออกมาว่า “ฟ้าเล่นอะไรกับกู!!!”

ในชั้นจับกุม นายเจษฎาภรณ์ หรือฟิล์ม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อดีตตนเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 9 ปี กระทั่งอายุ 12 ปี ได้ถูกคัดเลือกเข้าไปอบรมในค่าย academy ของบริษัทชื่อดัง และเมื่อปี 2562 ตนเองได้ถูกคัดเลือกเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี เคยไปแข่งขันที่ต่างประเทศจนชนะเลิศอันดับ 1 ในตำแหน่งมิดฟิลตัวรับ และได้เซ็นสัญญากับสโมสรชื่อดังในไทยลีกชีวิตตนเองเริ่มมาประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มมีบุตรสาว มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและตนก็เริ่มคิดจะหาทางหาเงินเพิ่มจึงเริ่มเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งชีวิตก็เริ่มดำดิ่งเพราะยิ่งหมดเงินไปเรื่อยๆกับการพนัน และยังประสบปัญหาอาการป่วยของบุตรสาว จึงเกิดความมืด 8 ด้าน หันหน้าเข้าวงการขนยาเสพติด โดยนำรายได้จากการลำเลียงยาเสพติดมาใช้ในครอบครัวและใช้ในการรักษาอาการป่วยของบุตรสาว ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเสียดายอนาคตและความสามารถตนเอง และขอให้เรื่องราวในชีวิตของตนเป็นบทเรียนให้กับเยาวชนไทยที่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอให้ดูตนเองเป็นบทเรียน”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการสืบสวนนักฟุตบอลรายนี้เริ่มเข้าวงการค้ายาเสพติดเมื่อประมาณต้นปี 2567 เชื่อว่ามีการลำเลียงยาเสพติดลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยอาศัยเวลาว่างจากการซักซ้อมกีฬา ส่วนผู้ร่วมขบวนการอื่นๆนี้ยังขอสงวนรายละเอียดไว้ก่อน แต่ขอยืนยันว่าเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะดำเนินการด้วยมาตการขั้นเด็ดขาด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นอันดับแรก ฝากเตือนว่าใครหวังรวยทางลัดด้วยทางของยาเสพติด ไม่มีใครพบจุดจบที่ดี สุดท้ายหากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้สามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB
หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีต่อไป

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป