ยะลา-เบตง จับแก๊งเรี่ยไรหลอกผู้สูงอายุให้เช่าพระ
เบตง ตำรวจ สภ.เบตง จับแก๊งเรี่ยไร หลอกผู้สูงอายุ อยู่บ้านตามลัง พูดคุยหว่านล้อม ให้เช่าพระ ขณะที่เฟส กลุ่มไลน์คนในพื้นที่ แจ้งเตือนให้ระวังกลุ่มบุคคลดังกล่าว พบผู้เสียหายหลายรายทยอยเข้าแจ้งความ
วันที่ 29 ก.ค.67 พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รุสมาน ดีนามอ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ขุนบันเทิง รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน, ตำรวจ ชุดสายตรวจ (ยูงทอง) ออกสืบสวนติดตามกลุ่มบุคคล ที่มาเรี่ยไรเงิน ให้เช่าพระ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังจากที่เมื่อวานนี้ ได้มีชาวบ้านมาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน ว่ามีกลุ่มคนมาหลอกผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพัง โดยได้มาพูดคุย หว่านล้อม โน้มน้าวจิตใจ ให้หลงเชื่อ และให้เช่าพระ ซึ่งตาม เฟสบุ๊ค กลุ่มไลน์ ของพี่น้องชาวเบตง ก็ได้มีการแจ้งเตือน ให้คนในพื้นที่อำเภอเบตง และพื้นที่ใกล้เคียง ระวังกลุ่มบุคคลเหล่านี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เบตง จึงได้ตรวจสอบ ดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่จนทราบว่า กลุ่มบุคลดังกล่าว ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1ฒน 2726 กทม. จึงประสานตำรวจ ชุดสายตรวจรถจักรยานยนต์ ออกตามหา จนพบที่บริเวณ ปั้มน้ำมัน ปตท. ทางออกเมืองเบตง ซึ่งเป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน บริเวณหลังรถเต็มไปด้วยข้าวของที่ให้เช่าบูชา อาทิ พระแก้วมรกรต หลวงพ่อโสธร ท้าวเวสสุวรรณ มีทั้งที่เป็นพระบูชา และที่อยู่ในกรอบรูป
ด้าน พ.ต.ท.รุสมาน ดีนามอ รอง ผกก.สอบสวน เปิดเผยว่า
หลังจากมีชาวบ้านมาแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำตามการสืบสวนติดตาม จนทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ใช้รถอะไร มีกี่คน เข้ามาพื้นที่อำเภอเบตง ตั้งแต่วันที่ 26 ที่ ผ่านมา และได้ตระเวนเรี่ยไร ให้เช่าพระ โดยจะเลือกบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่บ้านตามลำพัง เพราะสามารถพูดคุยให้หลงเชื่อได้ง่าย เบื้องต้นมีผู้เสียหาย 5 ราย เข้าแจ้งความ บางรายให้เงินไปไม่กี่ร้อยบาท ก็ไม่ได้มาแจ้งความ บางรายให้เป็นข้าวของ อย่างเช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง รายที่เข้าแจ้งความส่วนใหญ่ก็ต้องการที่จะได้เงินคืน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสูญเงินเป็นหลักพันบาท อยู่ที่สินค้าที่เลือกเช่า
ทั้งนี้หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมบุคคลดังกล่าวแล้ว ก็มีผู้เสียหายหลายรายทยอยขึ้นมาแจ้งความที่ สภ.เบตง เบื้องต้น มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 5 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งต่างก็นำพระที่เช่าบูชาไปมาด้วย เพื่อจะมาขอเงินคืน ซึ่งแต่ละรายก็สูญเสียเงินไปจำนวนไม่เท่ากัน บางรายก็ 2,000 บาท บางรายก็ 4-5 พันบาท แต่มีผู้เสียหายรายหนึ่งเสียเงินไป 6,500 บาท ได้เล่าให้ฟังว่า ขณะที่อยู่บ้านคนเดียว กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้มาพูดคุยหว่านล้อม ให้เช่าพระ โดยอ้างว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือเด็กๆ ตนด้วยความที่รู้สึกสงสารเด็กๆ จึงตกลงเช่าพระ จากนั้นก็มีเพื่อนบ้านที่เห็นคนกลุ่มนี้เดินออกจากบ้านตนไป มาสอบถามว่า คนเหล่านี้มาทำไร เมื่อตนเล่าให้ฟัง จึงรู้ว่าโดนหลอก จึงมาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป