ปทุมธานี ศูนย์เพาะชำกล้าไม้อบรมสร้างเครือข่ายภาคประชาชนปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ป่าไม้

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์เพราะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นายธนัช เนมีย์ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่(สระบุรี) เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการศูนย์พัฒนาอาชีพการเพาะชำกล้าไม้ (โรงเรียนกล้าไม้) ให้กับราษฎรกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายศุภกิจ จันทร์กลั่น นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ พร้อมเจ้าหน้าที่และประชาชนที่เข้าร่วมอบรมให้การต้อนรับ

ศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพฯมีหน้าที่รับผิดชอบในการผลิตกล้าไม้สนับสนุน แจกจ่ายกล้าไม้ให้กับประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน วัด โรงเรียน ในพื้นที่เป้าหมาย และพัฒนาเทคนิคการผลิตกล้าไม้ให้มีคุณภาพ รวมถึงการส่งเสริม เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำ และถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเพาะชำ ซึ่งศูนย์ได้กำหนดแผนงานโครงการศูนย์พัฒนาอาชีพการเพาะชำกล้าไม้ (โรงเรียนกล้าไม้) ขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของราษฎรในพื้นที่เป้าหมายที่มีความรู้ความสามารถทั้งในด้านทฤษฎีและในด้านปฏิบัติเกี่ยวกับการเพาะชำกล้าไม้ ตลอดจนวิชาการด้านป่าไม้อื่นๆ เพื่อใช้ทักษะ และองค์ความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปใช้ในการประกอบอาชีพด้านการเพาะชำกล้าไม้ ปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรไม้สร้างเครือข่ายราษฎร ที่มีศักยภาพด้านการเพาะชำกล้าไม้ ให้เป็นกำลังหลักแก่ชุมชน เพื่อให้สามารถผลิตกล้าไม้ได้เองในพื้นที่เป้าหมาย และสามารถนำไปขายเพื่อสร้างรายได้ ส่งเสริมปลูกไม้มีค่าเป็นเงินออมและเงินมรดก ช่วยเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศกลับคืนสู่สภาพป่าธรรมชาติต่อไป

ด้าน นายธนัช เนมีย์ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่5 (สระบุรี) กล่าวว่า การดำเนินการฝึกอบรมโรงเรียนกล้าไม้สำหรับพี่น้องประชาชนในวันนี้ เป็นนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้กรมป่าไม้ดำเนินการเพื่อนำเอาแนวพระราชดำริ เอาแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานไว้ โดยฝึกอบรมให้พี่น้องประชาชนได้มีความรู้ความสามารถในการเพาะชำกล้าไม้ มีความรู้เกี่ยวกับป่าไม้เพิ่มมากขึ้น และสามารถที่จะผลิตกล้าไม้ขึ้นมาเอง ในการที่จะช่วยทางราชการผลิตกล้าไม้เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างพี่น้องประชาชนด้วยกันเอง เพื่อนำกล้าไม้ไปฟื้นฟูเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประชาชน ซึ่งปัจจุบันนี้พื้นที่ป่าไม้ของประเทศได้ลดลง เนื่องจากการเพิ่มของจำนวนประชากร การขยายภาคการเกษตร รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากทรัพยากรต้นไม้และป่าไม้เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปก้จริง แต่สามารถสร้างและนำมาทดแทนใหม่ได้ โดยการผลิตกล้าไม้ จึงเป็นแนวทางที่ถูกจ้องที่ต้องดำเนินการสร้างการอบรมให้พี่น้องประชาชนเกิดความรู้ เกี่ยวกับการผลิตกล้าไม้เพื่อแจกจ่ายและสร้างเครือข่ายสร้างพื้นที่สีเขียวของประเทศสืบต่อไป