นราธิวาส-กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมาย ณ บ้านเลขที่ 140/1 หมู่ที่ 5 บ้านไอจือนะ ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยเข้าบังคับใช้กฎหมายบุคคลต้องสงสัย ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 ราย คือ นายซออิ (นามสมมุติ)อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย

1. หมายจับที่ 16/2561 ลงวันที่ 10 มกราคม 2561 ฐานความผิด พยายามฆ่าฯ (เมื่อ 27 กรกฏาคม 2560 เวลา 11.20 น. เหตุระเบิดเสาไฟบนถนนสาย 4107 รือเสาะ – นราธิวาส บริเวณบ้านบริจ๊ะ หมู่ที่ 7 ตำบลลาโล๊ะ ห่างจาก ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4607 ประมาณ 80 เมตร)
2. หมายจับที่ 83/2565 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ฐานความผิด ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ (เหตุวิสามัญ นายมาหะมะ บูละ พื้นที่ป่าภูเขา ตำบลลาโละ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562)
3. หมายจับที่ 671/2566 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ฐานความผิดร่วมกันก่อเหตุ เมื่อ 14 เมษายน 2566 เวลา ประมาณ 20.20 น. ลอบยิงและขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ใส่ฐาน หน่วยปฏิบัติการร่วม 21 (ผลซักถาม นายซูลกีฟลี ดือรายิง)

ในระหว่างการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ เข้ามาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม จนทำให้ผู้ต้องสงสัยยินยอมออกมามอบตัวพร้อมของกลาง อาวุธปืนเล็กยาว M16 จำนวน 1 กระบอก สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัว และญาติของผู้ต้องสงสัย ให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด

โดยจากกรณีนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่มิได้มีเจตนาและมุ่งหมายที่จะทำร้ายหรือเอาชีวิตแต่อย่างใด และพร้อมให้บุคคลที่หลงผิดได้ออกมาแสดงตัว เพื่อต่อสู้ตามแนวทางสันติวิธี ยึดมั่นในหลักการของสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเปิดโอกาสให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามหลักกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อดำเนินกรรมวิธีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส