ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งรัดดำเนินคดีขบวนการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานเก็บกักสารเคมีไม่ได้มาตรฐานจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ใน 2 จังหวัด
ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งรัดดำเนินคดีขบวนการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานเก็บกักสารเคมีไม่ได้มาตรฐานจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ใน 2 จังหวัด ล่าสุดจับกุมหลานนายโอภาสฯ ได้อีกราย เจ้าตัวยอมรับจัดการนำวัตถุอันตรายไปเก็บไว้ในโกดังที่ อ.ภาชี
วันนี้ (11 กรกฎาคม 2567) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ระยอง ได้สั่งการให้เร่งขยายผลดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง หลังตรวจสอบทั้ง 4 แห่งของ 2 จังหวัดแล้ว พบสารที่เป็นอันตรายอยู่ในโกดังทั้ง 4 แห่ง และพบความเชื่อมโยงกับอีกหลายพื้นที่ ลักษณะการทำงานเป็นขบวนการ โดยรับกากของเสียมาแล้วไม่ได้นำไปกำจัด ไม่มีใบอนุญาต นำมาครอบครองแล้วนำไปทิ้งในพื้นที่ป่าสงวน ตามไร่นา และพื้นที่ของประชาชนทั่วไป รวมทั้งมาเก็บแล้วปล่อยให้น้ำซึมลงไปในดิน สร้างความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.2 บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส ได้สืบสวนและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำวัตถุอันตรายมาทิ้งไว้ที่โกดังดังกล่าว ได้มีการขออนุมัติศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ นายจตุวุฒิฯ กรรมการบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต , ดำเนินกิจการรับทำการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต , ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต , ปล่อยน้ำซึ่งทำให้เกิดเป็นพิษแก่น้ำตามธรรมชาติหรือสารเคมีเป็นพิษลงในทางน้ำชลประทาน จนอาจทำให้ทางน้ำชลประทานเป็นอันตรายแก่เกษตรกรรม การบริโภค อุปโภค หรือสุขภาพอนามัย” เนื่องจากหลบหนีไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และเชื่อว่าเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่รู้เห็นกับเหตุลักลอบทิ้งวัตถุอันตรายฯ ไว้ภายในโกดังดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. สืบสวนพบว่า นายจตุวุฒิฯ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติพื้นที่หมู่ 7 ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ จนพบแหล่งกบดาน จึงได้วางแผนเข้าจับกุม นายจตุวุฒิฯ ได้สำเร็จ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการนำวัตถุอันตรายฯ ไปเก็บไว้ในโกดังที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จริง โดยมีนายโอภาสฯ กรรมการบริษัทวิน โพรเสส จำกัด ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้า ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา คอยสั่งการ ในส่วนของเหตุเพลิงไหม้ นายจตุวุฒิฯ ให้การว่า ไม่ทราบและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ ได้กำชับให้เร่งรัดรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งคดีเพลิงไหม้ ต้องให้ความชัดเจนในเรื่อง สารเคมีซึ่งเป็นพยานหลักฐาน และสำนวนการสืบสวนสอบสวนในความผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ในทุกมิติ ต้องรอบคอบ ชัดเจน และรวดเร็ว