ชลบุรี-รวบแล้บ แก๊งลูกหนี้มาเฟียเวียดนาม อ้างถูกตามทวงเงิน ด่าบุพการี เลยฟิวส์ขาด วอนสังคมอย่ามองภาพเป็นแก๊งมาเฟีย
ชลบุรี-รวบแล้บ แก๊งลูกหนี้มาเฟียเวียดนาม อ้างถูกตามทวงเงิน ด่าบุพการี เลยฟิวส์ขาด วอนสังคมอย่ามองภาพเป็นแก๊งมาเฟีย
จากกรณี ลูกหนี้มาเฟียชาวเวียดนาม จำนวน 4 คน วางแผนล่อลวงนายซวน ไห่ โงว อายุ 38 ปี เจ้าหนี้ชาวเวียดนาม มาพบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้ เพื่อชดใช้และจ่ายหนี้สิน แต่ปรากฏว่าโดนลูกหนี้รุมสกรัมทำร้าย เสิร์ฟหมัด ประเคนเท้า ได้รับบาดเจ็บ จนต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะที่ตำรวจอ ยู่ในระหว่างการไล่ล่าตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฏหมาย
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ 26 มิ.ย.67 มีรายงานว่า นายซวน ไห่ โงว อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนสนิท 1 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันธ์สีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับปมการก่อเหตุ โดยมี พ.ต.ต.หญิง ธัญญา อุดทอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.วีระชัย ถิ่นกมุท สว.ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกันเข้าสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวยังอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาข้างขวาและปูดบวมที่ท้ายทอย ภายหลังผู้เสียหายให้ปากคำกับตำรวจประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เดินทางกลับเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากมีอาการปวดกำเริบหนักระหว่างสอบสวน
พ.ต.ท.ฐานานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า สำหรับปมการก่อเหตุ จากการสอบสวนทราบว่าตัวผู้เสียหายเอง ได้เปิดธุรกิจรับจำนำรถอยู่ที่ประเทศเวียดนาม แต่ถูกหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย ทำเงินสูญไปประมาณ 1.4 ล้านบาท เนื่องจากมีการเอารถที่ผิดกฏหมายมาจำนำ และถูกตำรวจที่เวียดนามตามจับ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้แต่หนีหน้าหายไป จนกระทั่งทราบว่าหนีมาอยู่ที่พัทยา มาทำงานร้านอาหารเวียดนามของพี่สาว จึงรีบจองตั๋วนั่งเครื่องมาประเทศไทย หวังตามมาทวงหนี้ที่พัทยา แต่กลับถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุมีด้วยกัน 2 คน ส่วนอีก 2 คน แค่ยืนคุมเชิง
ต่อมาเวลา ประมาณ 11.20 น. พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้ควบคุมตัวนายบอย หรือทราน ชิน ติน อายุ 30 ปี และนายเหงียน อันห์ เกียต อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ สองลูกหนี้ชาวเวียดนามตามที่เป็นข่าว เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกาย” โดยจากการสอบสวนได้ความว่า เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน นายบอย เคยร่วมลงทุนทำธุรกิจรับจำนำรถที่เวียดนามกับตัวผู้เสียหาย แต่ระยะหลัง ได้เกิดปัญหามีตำรวจเข้ามาจับเพราะมีการรับจำนำรถที่ผิดกฏหมาย ถูกผู้เสียหายตามทวงหนี้ที่ร่วมลงทุนไป จนต้องหนีหนี้และมาอาศัยอยู่กับนายเหงียน ที่มีพี่สาวเปิดร้านอาหารเวียดนามที่พัทยา แต่วันเกิดเหตุไม่ได้มีการนัดหมายหรือวางแผน แต่ถูกฝ่ายผู้เสียหายตามมาทวงหนี้ถึงร้านอาหารที่พัทยา และถูกด่าทอถึงบุพการี เลยฟิวส์ขาดทำร้ายเจ้าหนี้ตามภาพคลิปวีดีโอ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นมาเฟีย และวางแผนลวงเจ้าหนี้มาทำร้ายตามที่เป็นข่าว และอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมด้วย.
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645