ปทุมธานี บิ็กแจ็สดีเบตโชว์วิสัยทัศน์ถูกใจประชาชนปทุมไม่ถอยลงคลอง

ปทุมธานี บิ็กแจ็สดีเบตโชว์วิสัยทัศน์ถูกใจประชาชนปทุมไม่ถอยลงคลอง

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่สนามกีฬาชุมชนบ้านเอื้ออาทรรังสิต คลอง 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ได้จัดเวทีประชาธิปไตยชุมชน เกาะติดเลือกตั้งนายก อบจ.จังหวัดปทุมธานี โดยมี รศ.ดร.อัจฉรา ชลายนนาวิน คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดงานฯ มีประชาชนมาร่วมรับฟังและสอบถามนโยบายในการแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวปทุมธานีจำนวนกว่า 500 คน

 
โดยทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ได้เชิญผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีทั้ง 4 เบอร์มาร่วมแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ โดย เบอร์ 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ปฏิเสธมาแสดงวิสัยทัศน์เนื่องจากพรรคไม่อนุญาต , เบอร์ 2 นายอธิวัฒน์ สอนเนย ได้ชี้แจงผ่านทีมผู้จัดว่าไม่สะดวกมาแนะนำตัว จึงมี เบอร์ 3 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และ เบอร์ 4 นายนพดล ลัดดาแย้ม ทั้ง 2 ท่านเท่านั้นที่เดินทางมาร่วมแนะนำตัวและแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมตอบปัญหาและข้อเสนอนโยบายจากประชาชนที่มาร่วมรับฟังในวันนี้ หลังจากจบการแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีแล้วประชาชนได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจทั้ง 2 ท่าน และถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด

 
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เบอร์ 3 ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า การหาเสียงในโค้งสุดท้ายนี้เราได้ลงพื้นที่อย่างครอบคลุมทั้งหมดแล้ว จึงไม่ต้องปรับแต่อย่างใด และเราได้ชี้แจงกับประชาชนว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ ส่วนที่เหลืออีกเพียง 7 วัน นโยบายต่าง ๆ ที่ผมได้อธิบายไป ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจ ในความตั้งใจที่เราพยายามทำอย่างเต็มที่ ส่วนผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผมก็ทำให้ดีที่สุด ผมไม่ได้ปรับอะไร แต่ก็ได้ให้ น้องๆ สจ.ช่วยกันเดินอย่างเต็มที่ เพราะคนที่ตัดสินคือประชาชน ในส่วนที่ผมลงในนามอิสระไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด ผมมองว่าไม่ได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด อยู่ที่มุมมองของพี่น้องประชาชน แต่ อบจ.เป็นตำแหน่งที่อยู่กับประชาชน และต้องตัดสินใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้เร็ว เช่น โรคระบาด น้ำท่วม การตัดสินใจแก้ปัญหาต้องเร็ว ไม่ใช่ต้องไปหารือพรรคก่อน รอมติพรรค ไม่เป็นตัวขอตัวเอง พรรคจะมาครอบงำเราหรือ เราต้องทำเพื่อประชาชน พรรคจะมารู้ดีกว่าเราได้อย่างไร ในเมื่อเราอยู่กับประชาชน

 
ส่วนกรณีที่ทำไมปทุมธานีจำเป็นต้องมีรถไฟฟ้าโมโนเรลเพราะถนนเส้นรังสิตนครนายกไม่สามารถขยายไปได้แล้ว จึงมีการหารือกันทั้งประธานสภาการท่องเที่ยวฯ ประธานสภาอุตสาหกรรม ภาคประชาชนต้องขึ้นสูงอย่างเดียวคือ รถไฟฟ้าโมโนเรล ที่จะแก้ปัญหาได้ ส่วนประเด็นคลองรังสิต เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ผมได้คุยกับท่านออมสิน ชีวะพฤกษ์ เมื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ขณะนั้นได้ปรึกษาท่านว่า แก้ปัญหาการจราจร ทางเรือไปได้หรือไม่ ท่านจึงได้จัดทีมงานของท่านลงมาดู และให้เรือได้ทดลองวิ่งในคลอง ถึงได้มีการสร้างท่าเรือที่ 1 ท่าเรือที่ 2 ในแต่ละคลองที่สร้างไปแล้ว ซึ่งมีการคิดมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว แต่เมื่อเอาเรือมาวิ่งปรากฏว่าไม่ได้เพราะประเด็จที่ 1 คลองทุกคลองขุดขึ้นมาเพื่อเป็นทางผันน้ำเพื่อเกษตรกร ไม่ใช่เพื่อการขนส่งทางสาธารณะ สภาพคลองจึงตื้นเขิน ประเด็จที่ 2 ชายคลองมีบ้านชาวบ้านคนหากมีเรือวิ่งไปมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เขาไม่ยอม ประเด็จที่ 3 เมื่อเรือวิ่งแล้วเกิดคลื่นจนเซาะชายถนน หากถนนพังจะเดือดร้อนขนาดไหน จึงมีการสำรวจรายงานลงมติกันในส่วนของรับบาลเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยท่านพลเอกประยุทธ ท่านดูเองเพราะเป็นโครงการที่ไปต่อไม่ได้จะให้ถอยหลังลงคลองไปอีก 8 ปีหรือ

ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน