พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตรสั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และการรวมกลุ่มของวัยรุ่นก่อเหตุ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตรสั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และการรวมกลุ่มของวัยรุ่นก่อเหตุ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และการรวมกลุ่มของวัยรุ่นก่อเหตุ ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดที่ต้องแก้ไอย่างเร่งด่วน จึงสั่งการให้ทุกหน่วยทำงานให้หนักขึ้น และมีการปราบปรามยึด อายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด และบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติดอย่างทั่วถึง
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม (ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.-7 ก.ค.67) เป็นระยะเวลา 1เดือน
จากนั้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือนายวัฒนาฯ พร้อมของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด, ยาเคตามีน 60 กิโลกรัม และได้ขยายผลหากลุ่มลูกค้าที่มารับยาเสพติดจากขบวนการดังกล่าว ต่อมา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2567 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ ซุ่มดูพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้พบว่ามีการขนลำเลียงกระสอบสีขาวจำนวนหลายกระสอบ ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าเป็นยาเสพติด ออกมาจากภายในซอยที่ใช้เก็บ พักยาเสพติด และช่วยกันขนขึ้นรถตู้ที่มาจอดรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าแสดงตัวและตรวจค้น จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายชลดรงค์ หรือวี่ อายุ 27 ปี ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) พร้อมของกลาง ยาบ้า ประมาณ 13,440,000 เม็ด และยึดทรัพย์สินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 23 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 4 ล้านบาท โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5 คน อาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทาง ภายในชุมชน สามารถหลบหนีไปได้ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าวต่อไป
ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ตนเองทำหน้าที่ขับรถนำ สำรวจเส้นทาง เพื่อลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางนำมาพักเก็บไว้ภายในซอยอ่อนนุช 86 และกระจายยาเสพติดให้แก่ลูกค้าที่มารับยาเสพติด ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000-15,000 บาท ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ช่วงกลางคืนจะมามั่วสุมรวมตัวแต่งรถมอเตอร์ไซค์ทุกคืน โดยใช้ชื่อว่า “แก๊งค์วัยรุ่นเมืองน้ำหอม” โดยมีนายโบ้ หรือฉายาในวงการรถแข่งชื่อว่า “หัวหมู่ M16” เป็นผู้ควบคุมสั่งการขนลำเลียงยาเสพติด ส่วนเงินที่ได้นำมาลงทุนแต่งรถแข่ง และแข่งรถเดิมพันเงินหลักล้านบาทในสนามแข่งรถ ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายเพื่อดำเนินคดีในข้อหาสมคบ และฟอกเงิน เครือข่ายของกลุ่มนายทุนที่สนับสนุนต่อไป