นครปฐม-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดงานมหกรรมผู้สูงอายุ สร้างพฤฒพลังเครือข่ายผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นครปฐม-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดงานมหกรรมผู้สูงอายุ สร้างพฤฒพลังเครือข่ายผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมผู้สูงอายุ สร้างพฤฒพลังเครือข่ายผู้สูงอายุ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอนุชา สะสมทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ตลอดจน อสม. และประชาชน ร่วมโครงการในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เสริมสร้างมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ตลอดจนกระตุ้นให้ประชาชนและสังคมตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว และตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นสังคมสูงอายุ จึงมีความจำเป็นในการสร้างกิจกรรมทางกายภาพ กิจกรรมฝึกสมองให้ผู้สูงอายุ เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกายและสมอง รวมถึงการเตรียมตัวเข้าสภาวะสังคมสูงอายุนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เช่นการให้ความรู้ การออม การปรับปรุงที่พักอาศัย และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ทั้งนี้กระทรวง พม.หวังว่าจังหวัดอื่นก็จะมีกิจกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมพัฒนาทั้งทางกายและดูแลสภาพจิตใจผู้สูงอายุ ดังนั้นการที่จะต้องดูแลตัวเองและคนที่เรารักเป็นหัวใจสำคัญ และการที่สังคมไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุ แปลว่าทุกคนต้องหันมาใส่ใจกับผู้สูงอายุ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูงอายุทุกท่านมีช่วงสูงวัยที่มีความสุขทั้งกายและใจ ทั้งนี้ชาว พม.ทุกคนจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยดูแลทุกท่านตลอดไป
ด้าน นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย ปี 2553 – 2583 ของสำนักคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. โดยใช้ข้อมูลสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2553 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นฐานในการประมาณ พบว่า ในปี 2583 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงถึง 20.5 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด แต่จะมีประชากรวัยแรงงานเพียง 35.18 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มีประชากรวัยแรงงานจำนวน 42.74 ล้านคน หรือลดลง 7.6 ล้านคน โครงสร้างประชากรไทยที่เข้าสู่สังคมสูงอายุจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการลดลงของจำนวนและสัดส่วนของประชากรวัยแรงงานกระทบกับศักยภาพการผลิต นอกจากนี้ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังขาดการพัฒนาทักษะทั้งในการทำงานและการดำรงชีวิตในสังคมให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้สูงอายุไทยร้อยละ 95 มีความเจ็บป่วยด้วยโรคหรือปัญหาสุขภาพ เช่น โรคความดันโลหิตสูง (ร้อยละ 1) และผู้ป่วยนอนติดเตียง (ร้อยละ 1) ขณะที่มีเพียงร้อยละ 5 ที่ไม่มีโรคหรือปัญหาสุขภาพ
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้บูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานเอกชน และองค์กรภาคประชาชน ที่มีภารกิจสอดคล้องต้องกันในการดูแลผู้สูงอายุทั้งในด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยกำหนดจัดโครงการมหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุ สร้างพฤฒพลังเครือข่ายผู้สูงอายุจังหวัดนครปฐม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 13 – 14 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย การแจกแว่นตาสำหรับผู้สูงอายุ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ นิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ บริการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ คลินิกโรคทั่วไป คลินิกกระดูกและข้อ คลินิกจักษุ คลินิกทันตกรรม คลินิกแพทย์แผนไทย ฯลฯ ประกวดผู้สูงอายุสุขภาพดี ประกวดเต้นบาสโลบ และประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง ของผู้สูงอายุ โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนาส่งเสริมให้ผู้สูงอายุในทุกระดับได้เข้ามามีส่วนร่วมและได้รับการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความรู้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมผู้สูงอายุ