ยะลา-เบตง ป่าไม้ ตชด ผู้ช่วย ตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าสวงนแห่งชาติป่าเบตง

เบตง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตชด.445 ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าสวงนแห่งชาติป่าเบตง ที่ถูกบุกรุก ปลูกผลไม้ คาดไหวตัวทัน เจ้าหน้าที่เข้าดักซุ่ม 2 วัน ไม่เข้าไปแผ้วถาง

 

วันที่ 12 มิ.ย.67 พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ ร้อย ตชด.445 ได้รับการประสานจากนายอานนท์ อินทราม พนักงานพิทักษ์ป่า ว่าที่บริเวณบ้านอัยเยอร์ซอ ม.2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา มีการบุกรุกลักลอบตัดต้นไม้ทำลายพื้นที่ป่าสวงวนแห่งชาติ ป่าเบตง จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรมเนียม รอง ผบ ร้อย ตชด.445 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด. สนธิกำลังร่วม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (เบตง) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถยนต์ โฟวิล รถจักรยานยนต์ วิบาก เป็นพาหนะ ขับขี่ไปตามทางถนนสายบ้านอัยเยอร์ซอ-กงสี2 จนสุดถนนลาดปูน จากนั้นก็ไปตามทางถนนดินลูกรัง ผ่านสวนยางพารา สวนผลไม้ของชาวบ้าน ซึ่งบางช่วงข้างทางก็เป็นหุบเหวลึก ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังโชคดีที่ช่วงนี้ในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมา ไม่งั้นการเดินทางคงยากลำบากเพราะถนนเละเป็นโคลน และจะลื่นมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนเขาสูงชันอีกประมาณครึ่งกิโลเมตร ก็พบพื้นที่ป่าที่ถูกทำลาย ลักลอบตัดไม้ จำนวน 1 แปลง ซึ่งเป็นป่าสงวนที่กำลังฟื้นคืนตามธรรมชาติ อยู่ห่างจากชายแดนประเทศมาเลเซียประมาณ 2 กิโลเมตร

 

มีต้นไม้ขนาดกลางและขนาดเล็ก จำพวก ไม้กระถินเทพา ไม้กระถินณรงค์ ไม้ไผ่ ถูกตัดโค่น เพื่อจับจองเนื้อที่ทำการเกษตรและมีการปลูกทุเรียน อายุประมาณ 2-6 เดือน มีการต่อท่อสายยาง เดินระบบน้ำไว้คอยรดต้นทุเรียน ต้นมังคุด ต้นไม้บางต้นก็ถูกใส่ยาให้ยืนต้นตาย บางต้นก็ถูกใช้มีดบากบริเวณโคนต้น รอคอยให้ล้มลงมาเอง เจ้าหน้าที่ยังพบมีดพร้า จอบ เครื่องตัดหญ้า ซุกซ่อนอยู่ใต้ท่อนไม้ที่ถูกโค่นล้มลง โดยมีกระสอบปิดบังอำพรางไว้ แต่ไม่พบผู้ใดอยู่บริเวณนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้บุกรุกแผ้วถาง คงไหวตัวทัน เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้ามาดักซุ่มดู 2 วันแล้ว

 

แต่ก็ไม่พบผู้ใดเข้ามาแผ้วถางทำสวนแต่อย่างใด ทั้งๆที่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาแอบซุ่มดู ยังพบร่องรอยการทำสวน ทั้งร่องรอยการรดน้ำ ร่องรอยขุดหลุมปลูกทุเรียนใหม่ๆ
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจวัดพื้นที่ ซึ่งมีพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถางเนื้อที่ จำนวน 14-2-16 ไร่ ตรวจยึดอุปกรณ์ ทั้งมีดพร้า จอบ เครื่องตัดหญ้าไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งติดป้ายตรวจยึดพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และจะดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เบตง ให้นำตัวผู้บุกรุกมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป