ขอนแก่น – “มข.”จับมือ “เอไอเอ” ดันนักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงในภาคอีสาน สู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ KKU Volleyball Academy ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด และ โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับมัธยมศึกษา(2 โรงเรียน) และระดับประถมศึกษา(4 โรงเรียน) เพื่อบ่มเพาะพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงจากโรงเรียนต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต และเพื่อแสดงบทบาทและความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ที่ ห้องรับขวัญ โรงแรมบายาสิตา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธีบันทึกลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ KKU Volleyball Academy ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด และ โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับมัธยมศึกษา และระดับประถมศึกษา โดยมี รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น , รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น , รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี, มร.นิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ จำกัด และคุณกฤช ธีรสุข ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต ภูมิภาค 4 ตลอดจน ผู้บริหารสถานศึกษา และนักกีฬา ร่วมงาน
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าในนามมหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับทุกท่านในโอกาสพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุน เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด ในวันนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีวาระครบรอบ 60 ปี ในปี พ.ศ.2567 ซึ่งเป็น 60 ปีแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคม โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี รวมถึงโครงการ KKU VOLLEYBALL ACADEMY นี้ด้วย ซึ่งเป็นโครงการที่จัดตั้งตามดำริของท่านนายกสภามหาวิทยาลัย ดำเนินโครงการเมื่อปี พ.ศ.2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะความสามารถทางด้านกีฬาวอลเลย์บอลของนักเรียนในภูมิภาคอีสานให้สูงขึ้นและสามารถต่อยอดสู่ระดับสโมสรลีกอาชีพได้
ด้าน ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุน เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด และ โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 2 โรงเรียน และโรงเรียน ระดับประถมศึกษา จำนวน 4 โรงเรียน ในวันนี้ก่อนอื่น ขอแสดงความชื่นชมบริษัท เอไอเอ จำกัด ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและให้โอกาสเยาวชนและนักกีฬาวอลเลย์บอลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการ MOU สนับสนุนงบประมาณ และส่งเสริมกิจกรรมด้านอื่นๆ ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อการพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงอย่างเป็นระบบ ให้เกิดการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์จากการเข้าร่วมการแข่งขัน ภายใต้โครงการ KKU Volleyball Academy ขอแสดงความชื่นชมมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ดำเนินโครงการได้อย่างดีเยี่ยม และโรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เข้าร่วมโครงการความร่วมมือในครั้งนี้
ส่วน รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ที่ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุน เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด และ โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 โรงเรียน ดังนี้ โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนกีฬาเทศบาล 2 วัดสว่างคงคา 2.โรงเรียนหนองเรือวิทยา ระดับประถมศึกษา จำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนบ้านกุดเชียงมี 2.โรงเรียนเหล่าเขืองโนนเสียววิทยา 3.โรงเรียนบ้านหนองขามแสบง 4.โรงเรียนชุมชนบัวบานสามัคคี
มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดตั้งโครงการ KKU Volleyball Academy [KKU VA] เมื่อปี พ.ศ. 2566 เพื่อบ่มเพาะพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงจากโรงเรียนต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต และเพื่อแสดงบทบาทและความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอล โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ความยั่งยืน SDG 5 (Gender Equality) : การบรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรีและเด็กหญิง (Achieve gender equality and empower all women and girls) โดยการพัฒนาศักยภาพผู้หญิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่การเป็นมืออาชีพระดับสากลผ่านการส่งเสริมกีฬาวอลเลย์บอลหญิงอย่างจริงจัง ตลอดจนเพื่อสนับสนุนปณิธานและค่านิยมของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในด้านการอุทิศเพื่อสังคม Social Devotion
โดยพัฒนาทักษะเยาวชนหญิงที่มีความศักยภาพสูงในกีฬาวอลเลย์บอลให้มีความสามารถสูงขึ้น สนับสนุนให้ฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์จากการเข้าร่วมการแข่งขันที่จัดขึ้นในระดับต่าง ๆ (ภูมิภาค ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ) อีกทั้งเพื่อต่อยอดการดำเนินงานสู่การจัดตั้งสโมสรวอลเลย์บอลหญิงของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และสนับสนุนการนำนักกีฬา KKU Volleyball Academy เข้าร่วมการแข่งขันระดับอาชีพในประเทศและนานาชาติ.
ต่อมา รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี่ ใคร่ขอกล่าวสรุปถึงพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุน เคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี ระหว่าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เอไอเอ จำกัด และ โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 โรงเรียน ดังนี้ ตามที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดตั้งโครงการ KKU Volleyball Academy [KKU VA] เพื่อบ่มเพาะพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงจากโรงเรียนต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต และเพื่อแสดงบทบาทและความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกีฬาวอลเลย์บอลในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยวัตถุประสงค์หลักของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ดังนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านกีฬาวอลเลย์บอลในภูมิภาคอีสาน อีกทั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน นักเรียน ที่มีความสามารถหรือศักยภาพสูงในด้านกีฬาวอลเลย์บอลได้เข้าร่วมการแข่งขันที่จัดขึ้นในระดับต่าง ๆ (ภูมิภาค ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ)
และช่วยส่งเสริมให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เกิดการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์จากการเข้าร่วมการแข่งขัน สามารถต่อยอดสู่ระดับสโมสรลีกอาชีพได้
ท้ายสุด มร.นิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ จำกัด (CEO) กล่าวแสดงความยินดีในการร่วมสนับสนุนโครงการ KKU Volleyball Academy ว่า บริษัทได้มอบเงินสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวน 1,500,000 บาท เพื่อให้ใช้ประโยชน์และสนับสนุนน้องๆ เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ในการส่งเสริมความเป็นเลิศทางกีฬาและพัฒนาทักษะของนักกีฬาวอลเลย์บอลในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งการสนับสนุนครั้งมีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนและนักศึกษาให้สามารถต่อยอดสู่ระดับสโมสรอาชีพในระดับชาติและนานาชาติได้ต่อไปในอนาคต.