สืบนครบาล รวบ หนุ่มรับจ้างทำความสะอาดรายวัน แอบขโมยเงินนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อ้างเอาเงินไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด
สืบนครบาล รวบ หนุ่มรับจ้างทำความสะอาดรายวัน แอบขโมยเงินนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อ้างเอาเงินไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด
จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย
.
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. กับชุดปฏิบัติการที่ 3ร่วมกันจับกุมตัว
นายธาดา (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 397/88 ซ.พงษ์เพชรนิเวศน์ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 496/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านพัก ม.7 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 2 เม.ย 2567 เวลาประมาณ 18.00น. MR. AOKI อายุ 39 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติ ญี่ปุ่น ได้เข้าพักที่ห้องพัก ภายในโรงแรมย่านสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้เสียหายได้ลงมาจากห้องพักเพื่อรับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม เมื่อผู้แจ้งรับประทานอาหารเสร็จ เวลาประมาณ 10.30 น. ได้กลับห้องพัก ตรวจสอบกระเป๋าสะพายของผู้แจ้ง ซึ่งได้วางไว้บนโซฟา ภายในห้องพักดังกล่าว พบว่าเงินสดจำนวน 160,000 เยน คิดเป็นเงินไทย 38,000 บาท ได้หายไป ซึ่งไม่ทราบว่า ผู้ใดเป็นคนร้ายได้เข้ามาขโมยเอาไป เป็นเหตุให้ได้รับคามเสียหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อจะได้ติดตามทรัพย์คืนมาตลอดจนจะได้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป
.
ภายหลังจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาดรายวัน รับงานเมื่อมีคนจ้าง ส่วนมากจะรับเฉพาะโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท วันเวลาเกิดเหตุดังกล่าว ขณะทำความสะอาดกับเพื่อนพนักงานอยู่นั้นได้เห็นกระเป๋าสะพายผู้พักอาศัย วางอยู่ภายในห้องจึงคิดว่าต้องมีของมีค่าแน่นอน เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ตนและเพื่อนพนักงานจึงออกจากห้องและไปทำความสะอาดห้องอื่นต่อ เมื่อเพื่อนพนักงานทำความสะอาดอยู่นั้น ตนจึงออกอุบายว่าลืมรองเท้าแล้วเข้าไปห้องเดิมเพื่อเปิดกระเป๋าสะพายนั้นดู พบเงินของประเทศญี่ปุ่นจึงหยิบใส่กระเป๋ากางเกงของตนมา เมื่อเสร็จงานตนจึงขี่รถ จยย. ไปเปลี่ยนเสื้อที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ และขับขี่รถตรงไปร้านแลกเงินเยน เป็นเงินบาท ย่านสุขุมวิท แต่ร้านนั้นปิด ตนจึงเดินทางกลับบ้านย่านนนทบุรี และไปแลกเงินที่ ร้านแลกเงิน ภายในห้องสรรพสินค้าย่านท่าพระ ผู้ต้องหายังรับอีกว่าเงินที่ได้มาเอาไปจ่ายค่างวดรถ จยย.ที่ตนขับขี่อยู่ เนื่องจากกลัวไฟแนนซ์จะมายึดรถไป ครั้งหนึ่งเคยมีไฟแนนซ์มายึดรถตนถึงบ้านจึงไม่อยากให้ภาพติดตาครั้งนั้นเกิดขึ้นกับตนอีกและขณะจับกุมผู้ต้องหาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ผมเคยเห็นพี่ในTikTok”
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การสืบนครบาลกล่าวว่า จากคดีความที่เกิดขึ้นพบว่ามีพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดกับทรัพย์สินของลูกค้านั้น มักก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของแขกผู้เข้าพัก โดยอาศัยจังหวะที่เข้ามาทำความสะอาดห้อง หรือช่วงที่เข้ามาบริการในห้องพัก ดังนั้นการมีมาตราการปิดช่องโอกาสอย่างหนึ่งคือตรวจประวัติอาชญากรรมด้านคดีเกี่ยวกับทรัพย์ เพื่อไม่ให้ทำงานเกี่ยวกับการใกล้ชิดทรัพย์ของผู้ใช้บริการ จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการคัดกรองเบื้องต้น และถ้าเหตุเกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย