23/12/2024

“ตำรวจ ปส.” ลุยสกัดกั้นไม่เลิก ! สัปดาห์เดียวยึดยาบ้า กว่า 19 ล้านเม็ด และเปิดปฏิบัติการโค่น “เครือข่าย K2” ยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท

IMG_9926

“ตำรวจ ปส.” ลุยสกัดกั้นไม่เลิก ! สัปดาห์เดียวยึดยาบ้า กว่า 19 ล้านเม็ด และเปิดปฏิบัติการโค่น “เครือข่าย K2” ยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ
วันนี้ 30 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญของ บช.ปส. ในห้วงของวันที่ 14 – 22 พ.ค.67 ดังนี้

1. บก.ปส.3
คดียาบ้า 7,750,000 เม็ด
ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจนทราบว่าจะมีการลำเลียง ยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย เข้าสู้พื้นที่ตอนในโดยใช้รถบรรทุกสิบล้อในการขนยาเสพติด และมีรถยนต์อีกหลายคันคอยขับคุ้มกัน จึงได้วางกำลังสกัดกั้นจน กระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลา 13.30 น. พบรถยนต์เป้าหมายขับนำทางกันมาตามเส้นทางจนถึงพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จว.พิษณุโลก จากนั้นรถบรรทุกสิบล้อ ได้ขับไปจอดอยู่ที่ลานค้าพืชผลทางการเกษตรแห่งหนึ่ง ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และขอตรวจค้น เบื้องต้นกระบะท้ายรถบรรทุกมีแผ่นยางพาราจำนวนมากวางปิดทับไว้ด้านบนเพื่ออำพราง ด้านล่างพบกระสอบต้องสงสัย ภายในมียาบ้าจำนวน 7,750,000 เม็ด ทั้งนี้จับกุมคนขับรถสิบล้อ 1 คน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้เจ้าสกัดจับรถนำและรถคุ้มกันอีก 4 คัน บริเวณจุดตรวจยาเสพติดท่างาม สภ.วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จว.พิษณุโลก ได้ผู้ต้องหา 5 คน รวมทั้งหมด 6 คน จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดี ยาบ้า 6,000,000 เม็ด
จากการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบว่าจะมีการนำยาเสพติด จำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน จว.เชียงราย เข้ามาพื้นที่ชั้นใน กระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลาประมาณ 02.00 น. พบรถกระบะตู้ทึบ และมีรถยนต์เป้าหมายขับนำทางกันมา และพบรถยนต์ในเครือข่ายแล่นจากชายแดนแม่ฟ้าหลวง มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ตำรวจจึงนำกำลังติดตามบนถนนพหลโยธิน ก่อนจะสกัดจับกุมรถที่ซุกซ่อน ยาเสพติดพร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ได้บริเวณหน้าตลาดบ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย พบท้ายกระบะตู้ทึบ มีกระสอบพลาสติกสีรุ้งจำนวนมากภายในบรรจุยาบ้ารวมทั้งหมด 6,000,000 เม็ด จากนั้นสามารถติดตาม จับผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทางได้อีก 1 ราย ที่ลานจอดรถ โรงแรมนันทชัย อินน์ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
คดี ยาบ้า 2,000,000 เม็ด
ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ขยายผลและติดตามความเคลื่อนไหวเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญซึ่งจะมีการลอบนำยาจากพื้นที่ชายแดน บ้านหนองเต่า ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ ไปส่งต่อยังพื้นที่ตอนในของประเทศ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 เวลา 23.30 น. ของตำรวจพบรถกระบะเป้าหมายลักษณะติดโครงเหล็ก และพบว่ามีการบรรทุกสิ่งของ มีน้ำหนักมาเต็มท้ายกระบะ ชุดจับกุมจึงประสานตำรวจในพื้นที่เพื่อนตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณสถานีตำรวจชุมชนตำบลม่อนปิ่น กระทั่งรถคันดังกล่าวกลับขับฝ่าจุดตรวจออกไป ตำรวจจึงนำกำลังไล่ล่าติดตาม จนสามารถสกัดจับผู้ต้องหาได้ 1 ราย ได้บริเวณริมถนนโชตนา ต.แม่สาว อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ตรวจค้นพบยาบ้า 2,000,000 เม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดี ยาบ้า 900,000 เม็ด
เมื่อเวลา 00.30 น. ของ วันที่ 14 พ.ค.67 ตำรวจ กก.๒ บก.ปส.๓ ทำการสืบสวนขยายผลและจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่แนวชายแดน อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ ไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ ขณะพบรถยนต์เป้าหมาย 3 คัน ขับผ่านตู้ยามบ้านห้วยส้าน อ.พร้าว จว.เชียงใหม่ และวิ่งมาตามเส้นทางเดียวกันในลักษณะขับนำ ขับตาม ชุดจับกุมที่ติดตามจึงสกัดกั้นเพื่อหยุดรถกลุ่มเครือข่าย พบผู้ต้องหา 3 ราย บริเวณด่านตรวจยาเสพติดพิทักษ์ธรรม หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จว.เชียงใหม่ ตรวจค้นรถพบยาบ้า 900,000 เม็ด บรรจุในกระสอบวางซ้อนทับกันอยู่บริเวณห้องโดยสารตอนหลังของรถกระบะ
เปิดแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “เครือข่าย K 2”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๖๕ ที่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค๑ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันทำการจับกุมนายนเรนทร์ และนายทศพล บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในคดีที่มีการจับกุมตรวจยึดยาบ้า 320,000 เม็ด เมื่อ 18 ก.ค.65 ซึ่งจากการขยายผล นายนเรนทร์ ให้การว่ามีนายจักรี หรือไอซ์ หรือ สอ.ลำลูกกา ว่าจ้างให้ตนขนยาเสพติด ไปให้กับลูกค้า สำหรับนายจักรี เป็นผู้สั่งการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล เพื่อกระจายสู่ชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี นอกจากนี้ ยังอยู่ในเครือข่ายของ นายอาร์ต ต่ำเอี่ยว และหนูเฉิน หรือนายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา ที่มีหมายจับคดียาเสพติด ซึ่ง ป.ป.ส. ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับนายจักรี สูงถึง 100,000 บาท ซึ่งจากข้อมูลหมายจับพบว่า นายจักรี หรือไอซ์ มีหมายจับจำนวน 7 หมาย เป็นคดียาเสพติด 6 หมาย คดีทำร้ายร่างกาย 1 หมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ จึงได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายนี้จนทราบว่ายังมีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งมีกลุ่มที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนโดยการถือครองทรัพย์สิน และฟอกเงิน ให้กับ นายจักรี จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “เครือข่าย K2” ระหว่างวันที่ 15 – 19 พ.ค.67 เพื่อยึดอายัดทรัพย์สิน ที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ จว.นครนายก, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา และ กทม. รวม 5 จุดตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 คน ยึดอายัดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 31 รายการ อาทิ อาวุธปืน 1 กระบอก, กระเป๋า Chanel 1 ใบ, นาฬิกาหรู 5 เรือน, แหวน ๘ วง, พระเลี่ยมทองฝังเพชร ๑ องค์, โทรศัพท์ ไอโฟน 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 12 เล่ม และ รถยนต์ Honda Civic 1 คัน รวมมูลค่า 10,280,000 บาท

คดีนำเข้ายาเสพติดเข้าสู่ ราชอาณาจักรไทย
ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับการลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน Airport Interdiction Task force : AITF ประกอบด้วย บช.ปส., สำนักงาน ป.ป.ส., กรมศุลกากร, และ ศรภ. กระทั่งวันที่ 17 พ.ค.67 ตรวจพบผู้โดยสารหญิงสัญชาติเปรู ชื่อ น.ส.มาร์เซลา ขณะเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ได้บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นบุคคลตามที่ได้รับแจ้งว่าจะทำการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งระหว่างนำกระเป๋าสัมภาระเข้าเครื่อง X-Ray ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่พบความผิดปกติในร่างกาย ตำรวจจึงนำเข้าเครื่อง X-Ray ร่างกาย เบื้องต้นพบสิ่งแปลกปลอมภายในร่างกายในลักษณะเป็นก้อนรูปวงรีจำนวนมากในลำไส้ จึงให้กินยาถ่าย เพื่อขับถ่ายสิ่งแปลกปลอมออกมาจากร่างกาย จำนวน 192 ก้อน น้ำหนักรวม 1,155 กก. เมื่อตรวจสอบพบเป็นโคเคน ถูกห่อหุ้มพลาสติกใสพันทับด้วยกระดาษคาร์บอนและพันทับด้วยพลาสติกใสอีกชั้น

2.บก.สกส.
คดียาบ้า 2,000,000 เม็ด
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส. และ บช.ภ.5 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ สืบเนื่องจากวันที่ 3 พ.ค.2567 ได้จับกุม ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมยาบ้า 1,250,000 เม็ด ในพื้นที่ ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จว.สุโขทัย จากการสืบสวนขยายผล พบว่าเครือข่ายรับยาเสพติดมาจากพื้นที่ อ.แม่จัน จว.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามนโยบายของรัฐบาล และยังมีกลุ่มบุคคลในเครือข่ายมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ดังกล่าวลงมาส่งในพื้นที่ภาคกลาง และปริมณฑล อย่างต่อเนื่อง จึงเฝ้าติดตามกระทั่งวันที่ 21 พ.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของรถในเครือข่าย 2 คัน ในเส้นทางจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่จัน จว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.ลำปาง – จว.สุโขทัย – จว.อุตรดิตถ์ จนสามารถจับกุม นายสิทธิชัย คนขับรถตู้โดยสาร HYUNDAI สีดำ หมายเลขทะเบียน 4ขผ 82xx กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณบนถนนพหลโยธิน กม.ที่ 858-859 หมู่ 5 ต.แม่ใจ อ.แม่ใจ จว.พะเยา ตรวจค้นพบยาบ้า 2 ล้านเม็ด ถูกวางไว้เต็มเบาะที่นั่งภายในที่นั่งของผู้โดยสาร ขณะที่รถกระบะ ISUZU สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 4636 อุตรดิตถ์ ที่ทำหน้าที่ขับรถนำ ตำรวจสามารถตรวจยึดรถซึ่งประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าข้างทาง บริเวณริมถนน 1252 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่

สำหรับการปราบปรามยาเสพติดในห้วง 7 เดือน ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 พ.ค.67 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 868 คดี ผู้ต้องหา 1,261 คน ของกลางเป็นยาบ้า 280,713,802 เม็ด, ไอซ์ 5,857 กก., เฮโรอีน 379 กก., คีตามีน 2,041 กก. และ ยาอี 1,904 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 3,816 ล้านบาท

เรื่องราวที่คุณอาจพลาดไป