“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” สั่งสืบสวนขยายผลหลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา และระยอง สั่งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเด็ดขาด
“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ” สั่งสืบสวนขยายผลหลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา และระยอง สั่งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (29 พฤษภาคม 2567) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในเรื่องนี้ จึงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดการสืบสวน สอบสวน ให้ปรากฏข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ตนลงไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้อย่างใกล้ชิด
จากการสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ขอศาลออกหมายจับ นายโอภาสฯ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง ในข้อหา “ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีวัตถุอันตรายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อมาวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายโอภาสฯ ได้ที่บริษัทเอกอุทัย สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ นำตัวส่ง สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง และ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ขออายัดตัวเพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดในข้อหาปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่ สภ.ภาชี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนและขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ นอกจากนั้นยังให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่ายังมีสถานที่อื่นใดที่ใช้เก็บสารเคมี ในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือนร้อนกับประชาชนในวงกว้างต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ได้กำชับตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้เร่งรัดตรวจสอบ สืบสวนสอบสวน ตามพยานหลักฐาน หากพบว่าใครกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินคดีทุกรายอย่างเด็ดขาด