สืบนครบาล รวบ “คู่รักนักเพาะเห็ด” ลักลอบจำหน่ายและสอนรับประทานเห็ดขี้อ้างช่วยประชาชนรักษาโรคต่างๆ
สืบนครบาล รวบ “คู่รักนักเพาะเห็ด” ลักลอบจำหน่ายและสอนรับประทานเห็ดขี้อ้างช่วยประชาชนรักษาโรคต่างๆ
ตามนโยบายพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ โดยผู้ต้องหารายนี้มีการจำหน่ายเห็ดเมา ทางออนไลน์ และจัดส่งทางพัสดุ โดยมีการสาธิตการทานเห็ดเมาออกสื่อโซเชียล พร้อมท้าทายตำรวจว่าพร้อมบวก ถ้าจะมาจับกุมตัว
.
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.,ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,ส.ต.อ.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, ส.ต.อ.นิติสิทธิ์ โชติคุต,และ ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว
1) น.ส.อมิตา (นามสมมุติ)อายุ 36 ปี ที่อยู่ 282 ซอยเทอดไท 33 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
2) นายบรรยงก์ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ที่อยู่ 9/116 ซอยพหลโยธิน 21 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
จับกุมตัวได้ที่ คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
.
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยผิดกฎหมาย และ ร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยผิดกฎหมาย”
.
พร้อมของกลาง เห็ดขี้ควาย หรือเห็ดเมา เพาะอยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 181 ถุง น้ำหนักรวม 116.92 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์การปลูกและจำหน่ายอีก 8 รายการ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับติดต่อสื่อสาร 1 เครื่อง, เครื่องฟอกอากาศ 1 เครื่อง, เครื่องทำความชื้น 1 เครื่อง, เครื่องอบแห้ง 1 เครื่อง, เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง, แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาด 1 ขวด, เครื่องวัดอุณหภูมิ 1 เครื่อง และถุงมือ 1 กล่อง
พฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้มี นายบรรยงก์ วิสุทธิ์ และ น.ส.อมิตา นิยมไทย พักอาศัยอยู่ที่ คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ลักลอบเพาะปลูกและจำหน่าย เห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ผ่านทางออนไลน์และส่งให้ลูกค้าผ่านทางบริษัทพัสดุเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น เพื่อจะทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อเห็ดขี้ควายแห้ง จำนวน 10 กรัม ผ่านแอปพลิเคชั่น Messenger Facebook ของนายบรรยงก์ ในราคา 1,111บาท นายบรรยงก์ แจ้งว่าไม่มีเห็ดขี้ควายแห้ง มีแต่เห็ดขี้ควายสดและจะขายให้ จากนั้น นายบรรยงก์ วิสุทธิ์ ได้แจ้งให้โอนเงินค่าเห็ดขี้ควายสดไปยัง บัญชีธนาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโอนเงินค่าเห็ดขี้ควายสำเร็จ ปรากฎสลิปโอนเงิน แสดงชื่อผู้รับเงิน ชื่อ นายบรรยงก์ วิสุทธิ์ ต่อมานายบรรยงก์ ได้แจ้งว่าจะส่งเห็ดขี้ควายให้ทาง รถจักรยานยนต์รับจ้าง Grab Express โดยจะส่งจาก หน้าคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ไปยังที่อยู่ของผู้ซื้อ
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตที่บริเวณ หน้าคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 และบริเวณใกล้เคียง ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. พบหญิงสาวตำหนิรูปพรรณตรงกับ น.ส.อมิตา นิยมไทย เดินถือถุงสีน้ำตาล ลงมาจากคอนโดมิเนียม อาคาร 1 ในลักษณะมารอส่งของ มีเหตุอันควรสงสัยว่าภายในถุงสีน้ำตาล คือเห็ดขี้ควาย ซึ่งมีไว้ในครอบครองมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในถุงสีน้ำตาล ผลการตรวจค้นพบ เห็ดขี้ควายสด น้ำหนักประมาณ 200 กรัม น.ส.อมิตา นิยมไทย รับว่าเป็นเห็ดขี้ควายที่จะนำมาส่งให้ผู้สั่งซื้อจริง จึงแจ้งให้ น.ส.อมิตา นิยมไทย ทราบว่าต้องถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบถาม น.ส.อมิตาฯ ผู้ต้องหา ให้การรับว่าภายในห้องเลขที่ 9/529 คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 ซึ่ง น.ส.อมิตา นิยมไทย พักอาศัยอยู่กับ นายบรรยงก์ วิสุทธิ์ ยังมีเห็ดขี้ควายที่เก็บไว้และกำลังเพาะปลูกอยู่อีกจำนวนมาก จึงยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายใน ห้องเลขที่ 9/529 คอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 21 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจสอบพบ นายบรรยงก์ วิสุทธิ์ อยู่ภายในห้องเลขที่ 9/529 และพบเห็ดขี้ควายที่เก็บไว้และกำลังเพาะปลูกอยู่ และอุปกรณ์เพาะปลูกเห็ดขี้ควาย จำนวนมาก จึงได้จับกุมตัวดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมาย นำส่ง สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
จากการซักถาม น.ส.อมิตาฯ แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้ประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ต่อมาได้ลาออกจากงานมาพักอาศัยกับนายบรรยงก์ฯ เนื่องจากชอบและศึกษาในหินแร่ประเภท Moldavite อ้างเป็นสะเก็ดดาวที่ตกมาโลก ซึ่งนายบรรยงก์ประกอบอาชีพซื้อแร่ดังกล่าวจากต่างประเทศมาขายต่อให้ผู้สนใจ รายได้หลักหมื่นและหลักแสนบาท และ น.ส.อมิตาฯ เคยมีเพื่อนชักชวนให้มาหาสัจธรรมและสามารถหลุดพ้นได้โดยใช้เห็ดขี้ควาย จึงคบหากับนายบรรยงก์ฯ และพักอาศัยด้วยกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งได้รับประทานและปลูกเห็ดขี้ควายด้วยกัน
.
นายบรรยงก์ฯ ให้การว่า ตนได้เพาะเห็ดขี้ควายจำหน่ายและรับประทานเอง เริ่มทำมาประมาณ 2 ปี โดยศึกษาจากช่องทางออนไลน์ ยูทูป, Tiktok และค้นหาข้อมูลผ่านทาง Google จนได้สั่งซื้อมาเพาะเองที่ห้อง เปิดเครื่องปรับอากาศและให้ความชื้นจนสามารถเพาะเห็ดขี้ควายได้จำนวนมาก นอกจากนี้ทั้งสองคนได้มีการจัดคอร์สเป็นทริปสอนรับประทานเห็ดขี้ควาย อ้างว่ารักษาจิตเวช และรักษาโรคได้ทุกโรค บำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดได้ทุกประเภท ผู้ใดที่สนใจเข้าคอร์สเป็นทริปกับตนคิดค่าสอน 11,111 บาท ทั้งอ้างว่าตนเองสำเร็จนิพพาน เป็นเทพเจ้า มีคลื่นความถี่ที่สามารถรับรู้ทุกสิ่งบนโลกได้ โดยหินแร่ที่ตนขายอยู่สัมพันธ์กับเห็ดขี้ควายที่ปลูกเชื่อมโยงทุกสิ่ง ตนอ้างว่าเคยนำเห็ดขี้ควายให้เด็กอายุ 3-4 ขวบรับประทานเพื่อรักษาจิตเวชเนื่องจากผู้ปกครองเด็กเชื่อว่ารักษาได้ ล่าสุดเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายบรรยงก์ฯ และ น.ส.อมิตาฯ ได้จัดทริปคอร์สสอนที่ จ.ตราด ได้นำเห็ดขี้ควายให้ประชาชนละแวกนั้นรับประทาน และมีผู้ที่รับประทานแล้วอาเจียนออกมา จากนั้นได้นำเห็ดขี้ควายไปถวายต่อกรมหลวงชุมพรที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เนื่องจากตนเชื่อว่าถวายสิ่งที่ดีที่สุดให้ไป เห็ดที่จำหน่ายให้แก่ผู้อื่นผ่านช่องทางออนไลน์ตนอ้างว่าเพื่อช่วยชีวิตผู้คน การจำหน่าย จำหน่ายในราคากรัมละ 100 บาท รายได้รวมจากการจำหน่ายเห็ดขี้ควายและคอร์สสอนรับประทานเห็ดเดือนละหลายแสนบาท อีกทั้งยังได้มีการโพสต์ท้าทายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมตน เนื่องจากตนไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิดซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนและต่อความมั่นคงของประเทศ จึงขอเตือนภัยไปยังผู้ที่จะทดลองเสพยาเสพติดหรือจำหน่ายยาเสพติดทุกชนิด ล้วนมีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว และล้วนแต่สร้างความเสียหายไปยังสังคมส่วนรวม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ตลอดจนสุขภาพของผู้เสพอีกด้วย