ตำรวจภาค 4 ทลาย 2 เครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดนยึดเฮโรอีน กว่า 70 กก. และ ยาบ้า กว่า 4.2 ล้านเม็ด
ตำรวจภาค 4 ทลาย 2 เครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดนยึดเฮโรอีน กว่า 70 กก. และ ยาบ้า กว่า 4.2 ล้านเม็ด
ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ให้ปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และเพิ่มความเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่มีปัญหา พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตำรวจภาค 4 เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายดังกล่าว อย่างเด็ดขาด ล่าสุดตำรวจภาค 4 ได้ทลาย 2 เครือข่ายยาเสพติดยึดเฮโรอีน ที่ จ.นครพนม กว่า 70 กก. ยึดยาบ้าที่ จ.เลย กว่า 4 ล้านเม็ด
คดีแรก เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.นครพนม พร้อมหน่วยร่วมบูรณาการ ได้สืบสวนทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่าน จ.นครพนม จึงวางกำลังเฝ้าติดตามจับกุม กระทั่งเวลา 06.30 น. ของวันที่ 1 พ.ค.67 ได้มีรถยนต์หมายเลขทะเบียน กบ 65xx เพชรบูรณ์ จอดอยู่ริมถนนหน้า อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จึงเข้าทำการตรวจค้น พบนายพัลลภ เป็นผู้ขับขี่ และ พบเฮโรอีนจำนวน 189 แท่ง น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัม บรรจุในกล่อง 2 กล่อง ซึ่งอยู่ในถุงดำอยู่ภายในรถ และได้ติดตามไปจับกุมรถนำทาง หมายเลขทะเบียน ผจ 60xx เพชรบูรณ์ ได้ที่ปั้ม ปตท.ฝั่งตรงข้ามทางเข้าท่าอากาศยานสกลนคร โดยมีนายวีระศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่และน.ส.ธนัญญา นั่งไปด้วย จากการสอบถามทั้งสามคน รับว่าร่วมกันรับจ้างขนยาเสพติดโดยได้รับค่าจ้าง 1 แสนบาท จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สภ.โพนสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.67 เวลาประมาณ 01.00 น. ตำรวจ สภ.เชียงคาน ภ.จว.เลย พร้อมกับ บก.ควบคุมที่ 3(ร.8) กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร้อยสกัดกั้นฯที่ 1, ทพ.2101, ตชด.246 และหน่วยร่วมบูรณาการ ร่วมกันสืบสวนทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติด ที่บริเวณริมถนนหมายเลข 2195 สายเชียงคาน – ท่าลี่ ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย จึงพากันไปตรวจสอบ พบกระสอบบรรจุยาบ้าจำนวน 14 กระสอบ วางกองรวมกันบริเวณป่าริมถนนสายดังกล่าว มียาบ้าบรรจุในกระสอบประมาณ 4,290,000 เม็ด จึงร่วมกันตรวจยึดและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำของกลาง มาตรวจนับอย่างละเอียดที่ บก.ร้อย.สกัดกั้นฯ ที่ 1 ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน ดำเนินคดีและสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลทั้ง 2 คดี และติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งใช้มาตรการยึดทรัพย์กับผู้เกี่ยวข้องทุกราย นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ตำรวจภาค 4 ทุกจังหวัด เดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดอย่างเด็ดขาดต่อไป
